I’m a friday-night bicyclist

ไม่เกี่ยวกันหรอก แต่ปกซีดีนี้มันถูกใจ โน่ซื้อมาจากคลองถมนานแล้ว ยังไม่ได้ฟังเลย
ride friday
ขอบคุณรูปปกซีดีจาก CoverShare โดย @poakpong

ช่วงนี้ว่างเว้นจากการปั่นประจำคืนวันศุกร์ไปหลายสัปดาห์เพราะฝนตกตลอดเลย ฝนหยุดแล้วคงได้กลับมาปั่นกันอีก

ปล.ชื่อเอ็นทรี่มาจากฉายาที่น้อง @mameou ตั้งให้ ชอบครับ

Bangkok Car Free Day 2008

ตื่นเช้าวันอาทิตย์ เช็คความเรียบร้อยของน้องแอร์คู่ใจ เจ็ดโมงครึ่งก็ปั่นไปรวมตัวกับเค้าที่ตึกช้าง
ปีนี้เลยอดไปขึ้นรถไฟฟ้าฟรีเหมือนปีที่แล้ว เพราะมันนัดรวมพลกันใกล้ๆ บ้าน
ถึงตึกช้างก็เจอพี่ป๊อกนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มีรถจักรยานมากันเยอะแยะไปหมด
ทั้งรถเก่ารถใหม่ รถแม่บ้าน รถโบราณ รถซื้อกับข้าว รถส่งลูกไปโรงเรียน รถนอนปั่น! ฯลฯ

แปดโมงก็ร้องเพลงชาติกันหน้าตึกช้าง แล้วก็ยกขบวนปั่นไปสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
ไปตามเส้นทางพหลโยธิน ตัดเข้าวิภาวดีรังสิตตรงแยกลาดพร้าว

อากาศเป็นใจมาก เมฆครึ้มๆ แต่ฝนไม่ตก แดดเลยไม่มี ปั่นแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ไม่ทันสนุกเท่าไหร่
ถึงหน้าสนามไทยญีุ่ปุ่น ก็มีสาวสวยมารอต้อนรับ (ว้าว..) รู้สึกจะเป็นอดีตนักร้องดูโอหญิง
เจอหน้าบ่อยๆ สมัยอยู่ ais เรียกแต่ว่าโน้ต-ตูน จนติดสมอง แต่ไม่รู้ว่าคนไหนโน้ต คนไหนตูน (-_-“)

จอดรถกันก็ไปลงชื่อ แล้วก็สิ่งสำคัญเลย ข้าวกล่องฟรี! (กล่องใหญ่มาก แกงมัสมั่นกับทอดมัน อร่อยด้วย)
กินเสร็จ ก็เตรียมไปรวมตัวกลางสนามกีฬา แปรขบวนเป็นรูปแผนที่ประเทศไทยเหมือนปีก่อน

การจัดการโอเค ทยอยต้อนนักปั่นลงไปยืนเรียงตามจุดที่มาร์คไว้ ถ่ายรูปออกมาสวยงามแน่นอน
ใส่เสื้อยืดที่ได้รับแจกเหมือนกัน มีถุงผ้าสีฟ้าสวย ร่มคนละคัน ตามสี ผมได้ตำแหน่งตรงจังหวัดแม่ฮ่องสอน
แถวๆ เดียวกับปีที่แล้วเปี๊ยบเลย ได้ร่มสีฟ้า ก็ยืนประจำจุด รอคนอื่นๆ ทยอยเข้าสนาม
ก็เข้าใจว่านานแน่ๆ เพราะต้องใช้คนกับรถรวมกัน 1551 คัน (ถ้าฟังไม่ผิด) มากกว่าปีที่แล้วอีก
DSC00063DSC00064

ระหว่างรอก็ไปนั่งๆ คุยกันข้างสนาม ถึงเวลาก็เข้าประจำจุด ถ่ายรูป แต่พระช่วย!
ทางผู้จัดงาน ต้องมีพิธีการอัญเชิญบรรดาท่านๆ ทั้งหลายมายืนอ่านโพย ประหนึ่งว่าได้ช่วยสร้างสรรค์วาระพิเศษนี้ขึ้นมา
และร่วมยินดีที่พวกเราประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน สนใจจะมาดูแผนที่ประเทศที่สร้างจากนักปั่นนับพันคน บลาๆๆ
เซ็งครับพี่น้อง ยังไม่พอ!…มีการแสดงของเด็กนักเรียนต่ออีก

โอ้..แม่เจ้า คนในสนามยืนเรียงกันเป็นพันคนมันจะได้ดูด้วยมั้ย มีแต่ทั่นๆ บนอัฒจรรย์นั่นแหละ ที่นั่งดูสบายใจเฉิบ
ทำไมไม่เห็นใจคนที่ยืนเรียงแถวอยู่ในสนาม กางๆ หุบๆ ร่มตามความต้องการของผู้จัดที่อยากให้เกิดภาพอันสุดประทับจิต
และบรรยายตลอดเวลาว่า โอว..มันเป็นภาพที่สวยงามมาก ดิฉันอยากให้ทุกท่านได้มาเห็นตรงนี้จริงๆ (จากข้างบน)
แหงสิ..คุณลองมายืนร่วมกับพวกเราพันกว่าคนข้างล่างนี่มั่งมั้ย พวกน้าๆ อาๆ ที่ยืนใกล้ๆ ก็บ่นกันใหญ่
บอกว่าดีนะที่แดดมันไม่ร้อนมาก ไม่งั้นคงมีเดินออกประท้วงแหงๆ

มีคุณน้าข้างๆ คนนึงน่ารักมากครับ เข้าใจว่าทำงานเป็นครู ระหว่างรอแกก็เอางานขึ้นมาทำ
เป็นใบคะแนนของนักเรียนในชั้น เพื่อนๆ ที่ยืนใกล้ๆ ก็มีแซวกันสนุกสนาน

สรุปว่าเข้าไปยืนตั้งแต่ก่อนสิบโมง เสร็จเกือบเที่ยง เคืองมาก ปีหน้าจะไม่ลงไปร่วมด้วยแล้ว
คนชอบปั่นจักรยานไม่ชอบหรอกครับ มายืนเฉยๆ เป็นชั่วโมงน่ะ ปีหน้าผมขอปั่นอย่างเดียวดีกว่า
ลาขาดกันที ลัทธิพิธีการ ฮ่าๆๆ

ปีนี้ไม่มีผู้ว่ากทม.มาเป็นประธาน เพราะยังไม่ได้เลือกใหม่ เราเลยได้เห็นบรรดาว่าที่ผู้ว่ากทม.มาเนียนๆ โชว์ตัว
กับถ่ายรูปอยู่ในงานตามสเต็ปบังคับของฤดูหาเสียง

พอถ่ายรูปอะไรกันเรียบร้อย ก็แยกย้ายกัน ผมมาแวะดูบูธนู้นบูธนี้ไปตามเรื่องตามราว
หน้างานมีน้องๆ นักเรียน ที่อาจารย์พามาโชว์ฝีมือกับจักรยานล้อเดียว เจ๋งมาก ผมก็ว่าจะหัดอยู่เหมือนกัน
DSC00067DSC00068

ไปนั่งรวมตัวกันที่บูธร้าน Max Rider กินข้าว พูดคุยกันกับเพื่อนๆ
น้าเด๋อ เจ้าของร้าน และเป็นคนจัดแข่ง Kona Bike Park ก็ชวนให้ไปแข่ง Kona Bike Park #5
ที่เจ็ดคต สระบุรี อาทิตย์หน้านี้ แล้วก็กำชับให้ไปให้ได้
“ทำสนามหมดไปเป็นหมื่น ถ้าไม่มาซ้อม ไม่มาแข่งกัน จะโกรธให้ดู”
จัดมาถึงครั้งที่ 5 แล้วเหรอเนี่ย ผมไปครั้งแรกหนเดียวเอง

โอเคครับน้า กลัวน้าเคือง ไม่นำเข้าสินค้าแบรนด์ Kona เดี๋ยวผมไม่มีอะไหล่ใช้
เลยแอบเดินหนีไปกินข้าว ยังไม่ตกปากรับคำ play safe ไว้ก่อน

แอบเอารถคนนู้นคนนี้ไปลองปั่นๆ ขย่มๆ เล่น สะใจมาก น้องแอร์อีกคันนึงของน้าเด๋อโดนจับเปลี่ยนช็อคหน้าใหม่
เบามาก จะยกหน้าหรือลองโดดทีนึงก็ลอยอย่างง่ายดาย น่าเสียเงินเป็นอย่างยิ่ง 😛

กินเสร็จ ก็แยกย้าย ปั่นกลับบ้าน ลัดเลาะไปตามเส้นทางตลาดห้วยขวาง แว่บผ่าน ม.หอการค้า
ปั่นกันเป็นขบวน สนุกดีครับ แล้วก็มาทะลุตรงสุทธิสาร ก็ตัดเข้าวิภาวดีรังสิต ปั่นอัดยาวไป
บ่ายโมงกว่าๆ ก็ถึงบ้าน ที่เหลือไปเล่นโดดเนินกันต่อที่สวนรถไฟ แล้วก็ใต้ทางด่วนเกษตร-นวมินทร์
ส่่วนผมก็นอนดูดีวีดีเดี่ยว 7 อยู่บ้าน พักผ่อน เป็นอันหมดไปหนึ่งวัน…

ปล.ปีนี้ไม่ได้พกกล้องไปเหมือนปีก่อน เลยใช้กล้องมือถือถ่ายมาแค่นิดหน่อยเอง คุณภาพพอทน
รูปอื่นๆ ก็ดูได้ที่ flickr เหมือนเดิม
มีนิดเดียว ถ้าอยากดูเพิ่ม อีกซักพักคงมีโพสในมัลติพลาย ไม่ก็ในพันทิปกันให้ตรึม เห็นมีตากล้องไปกันหลายคน

Taken สู้ไม่รู้จักตาย

เพิ่งดูมาเมื่อคืน ชื่อไทยมันฟังดูเหมือนหนังสืบสวนชีวิตรันทดเล็กน้อย
แต่เอาเข้าจริงกลับเป็นหนังแอ็คชั่นมันส์ระทึก

ชื่อเรื่องมันดันไปพ้องกับทีวีซีรี่ส์มนุษย์ต่างดาวลักพาตัวมนุษย์ของสปีลเบิร์กเมื่อหลายปีก่อน
แล้วยังไปคล้ายกับเกมสุดฮิต Tekken ที่กำลังทำเป็นหนัง จนบางคนนึกว่าถ่ายทำเสร็จออกมาฉายแล้ว
ต้องคอยแก้ให้ว่า ไม่ใช่! (เฟร้ย!!)
taken poster
ไบรอัน (เลียม นีสัน) อดีตซีไอเอ ที่ลูกสาวถูกลักพาตัวไปโดยที่ตัวเองยังอยู่ปลายสายโทรศัพท์ทางไกลปารีส-แอลเอ
เค้ามีเวลาประมาณ 96 ชม. ที่จะตามไปช่วยลูกสาวที่ปารีส ก่อนนั้นก็พูดกับคนร้ายผ่านสายที่ยังไม่วางว่า

“ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร ฉันไม่รู้ว่าแกต้องการอะไร ถ้าแกต้องการค่าไถ่ล่ะก็ บอกได้เลยว่าฉันไม่มีเงิน
แต่สิ่งที่ฉันมีคือทักษะเฉพาะทาง ทักษะที่เรียนรู้มาตลอดชีวิตการทำงานที่ยาวนาน ทักษะที่จะทำให้ฉันเป็นฝันร้ายสำหรับคนอย่างแก
ถ้าแกปล่อยตัวลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้ ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน ฉันจะไม่ตามหาแก ไม่ตามล่าแก
แต่ถ้าไม่ ฉันจะตามหาแก ฉันจะไล่ล่าแก แล้วก็ฆ่าแกซะ” (ไม่เป๊ะๆ นะ แต่ประมาณนี้แหละ)

บทพูดยาวๆ นั่นจะได้เห็นก่อนแล้วในหนังตัวอย่าง ซึ่งทำให้อยากดูขึ้นมาทันที
ตอนแรกก็เดาว่าจะออกแนวสืบสวนมากกว่าแอ็คชั่นไล่ล่า
แต่คิดผิดครับ หนังเป็นแอ็คชั่นเต็มตัว ถึงจะไม่ระเบิดตูมตามแต่ก็ตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง
คนที่สนิทกับผมจะรู้ว่าผมชอบไตรภาคเจสัน บอร์นมาก เรื่องนี้ถือว่าเป็นเจสัน บอร์นวัยเกษียณก็ว่าได้
บทไบรอันนี่เหมือน แจ็ค บาวเออร์กับเจสัน บอร์น ผสมกันเลย

หนังกำกับโดย ปิแอร์ มอเรล ศิษย์ลูกหม้อของลุค เบสซอง เคยทำเรื่อง B13 มาก่อน
(เข้าฉายบ้านเราในชื่อ 13th District คู่ขบถ คนอันตราย กำลังจะมีภาคสองด้วยนะ)
ซึ่งเรื่องเก่าน่าจะได้รับอิทธิพลจากองค์บากไปพอสมควร (ซื้อของเราไปขายแล้วก็ลอกเลยนะ)
เรื่องใหม่นี่ก็ทีมเดิมๆ ทั้งโปรดิวเซอร์และคนเขียนบทก็คือลุค เบสซองนั่นเอง
หนังเป็นสัญชาติฝรั่งเศส เดินเรื่องในฝรั่งเศสก็จริง แต่พูดอังกฤษ ดูง่าย สบายใจ

เลียม นีสันที่ช่วงหลังๆ มักเล่นเป็นอาจารย์หรือพ่อพระเอก
(อาจารย์เจไดในภัยซ่อนเร้น, อาจารย์ของแบทแมน(บีกินส์), อัสลานแห่งนาร์เนีย ฯลฯ)
คงเพราะหุ่นให้ คือสูงใหญ่ (195 ซม.) ยืนกับพระเอกแล้วดูดีส่งเสริมกันบนจอ

ผมรู้จักเค้าเรื่องแรกจากดาร์คแมน หลุดจากคน (แซม ไรมิกำกับไว้สนุกดี)
เรื่องนี้เป็นพ่อเหมือนกัน แถมเก่งและเท่มาก ใครชอบหนังแอ็คชั่นลุยเดี่ยวแบบไตรภาคเจสัน บอร์นไม่ควรพลาด

เฟมก้า แจนเซ่น (สวยน้อยลงเยอะเลย) มาเล่นเป็นแม่ ไม่ค่อยมีบทมาก ซึ่งก็ไม่สำคัญอะไร
แค่ขยายให้เราได้รู้ชีวิตครอบครัวของคนที่เคยเป็นสายลับเท่านั้น
ลูกสาวรับบทโดยแม็กกี้ เกรซ จากซีรีส์ Lost สวยน่ารักใช้ได้ เดี๋ยวต้องซื้อดีวีดีเก็บไว้ดูอีก

หนังยาวพอดีๆ แค่ 93 นาที ฉายจำกัดโรงในบ้านเราแค่สกาล่า กับเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยฯ
ใครยังไม่แน่ใจก็กดไปดูหนังตัวอย่างก่อนได้ที่ เว็บทางการของหนัง

ปล.อาทิตย์ที่ผ่านมา ดู In Bruges, You Don’t Mess With the Zohan, Sukiyaki Western Django ติดๆ กัน
ไม่ประทับใจซักเรื่อง มาล้างตาได้กับ Taken นี่แหละ ^^

Olympus E-520

สอยมาจนได้ หลังจากจ๋อย ไม่มีกล้องเล่นอยู่ร่วมสองเดือน
เห็นคุณ @vsatayamas ขยันเอา E-420 ใช้งานจนทนอิจฉาไม่ไหว 😛

ถอดเลนส์คิท 14-42mm ออก จับรวมร่างกับน้องแพนเค้ก 25mm ออกมาเอวบางร่างน้อยน่ารักแบบนี้แล…
Olympus E-520 with Lens PancakeOlympus E-520 with Lens Pancake

ตัวนี้กริปใหญ่กว่า E-420 จับถนัดมือขึ้นเยอะ มีระบบกันสั่นมาด้วยในตัว หน้าตาถูกใจสาวกชาวกบอย่างเรา

ต่อไปก็หยอดกระปุกไปสอย zd 70-300mm มาส่องนกข้างบ้านได้แล้ว ^_^

The 40 Year Old Virgin

เมื่อคืนนอนไม่หลับ เลยหยิบหนังเก่า 3 ปีที่แล้วเรื่องนี้ขึ้นมาดูซะหน่อย
ดูจบประทับใจ จนนึกเสียดายว่าทำไมไม่ได้ดูในโรง
40 year old virgin
“40 ปี โอ้ว! ยังจิ้น” ชื่อไทยแบบตรงตัว ซึ่งตอนที่เข้าฉายบ้านเราก็มองๆ อยู่
แต่ไม่นึกอยากดูเท่าไหร่ เพราะดูหนังตัวอย่างผ่านๆ แล้วก็คิดว่าคงเป็นหนังตลกทะลึ่งสัปดนใต้สะดือทั่วไปที่เห็นจนเกร่อ
พอดูจริงๆ แล้วหนังมันกลับน่ารัก โรแมนติกซะไม่มี

แอนดี้ (สตีฟ คาเรลล์) หนุ่มใหญ่วัย 40 ปี ที่ชีวิตก็ค่อนข้างดูดี มีงานทำในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
อาศัยในอพาร์ทเมนท์ที่เต็มไปด้วยของเล่น ของสะสม วีดีโอเกม (ที่เพื่อนๆ แซวว่ามีเยอะกว่าวัยรุ่นเอเชียซะอีก)
ตื่นเช้า ทำอาหาร และปั่นจักรยานไปทำงานซะด้วย แถมเป็นคนสุภาพ มีความสามารถ ทำงานเก่ง
แทบจะเพียบพร้อมทุกอย่าง

แต่พอเพื่อนๆ รู้ว่าแอนดี้ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็พยายามช่วยแนะนำ หาทางให้แอนดี้จีบสาวให้ได้
ที่สุดแอนดี้ก็ไปชอบทริช สาวใหญ่ที่ยึดอาชีพขายของทางอีเบย์อยู่ร้านตรงข้าม
(รับบทโดย แคทเธอลีน คีเนอร์ ผมชอบเจ๊แกมาตั้งแต่ Being John Malkovich นู่น)
ระหว่างนั้นเพื่อนๆ ก็พยายามหาทางให้แอนดี้ได้มีประสบการณ์ซะที
เอาเข้าจริง หนังก็ไม่ได้ลามกหยาบคายอะไรมากนัก รวมทั้งไม่ได้ขำฮาก๊ากอย่างที่คิด
ออกจะน่ารักเหมือนนิสัยของตัวเอก

ดีวีดีแผ่นนี้เป็นเวอร์ชั่น unrate ก็มีโป๊ ทะลึ่งตึงตังบ้าง คงไม่เหมาะที่จะเปิดดูพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกในบ้านเท่าไหร่
พวกโบนัสก็มีให้ดูจุใจดี ดูหนังจบแล้วมาไล่เปิดดูเพลินๆ ตอนหลังก็โอเค ส่วนมากก็จะเป็นฉากที่ตัดออก

ผมดูหนังของผู้กำกับ/มือเขียนบท จัดด์ อพาโทว มาหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็สนุกดี
คิดว่าถ้าเจอชื่อนี้อีกก็คงจะตามดูต่อไป แต่สำหรับเรื่องนี้ แนะนำเลยว่าเหล่าโอตาคุทั้งหลายน่าจะลองหามาดูซักครั้ง