ตื่นเช้าวันอาทิตย์ เช็คความเรียบร้อยของน้องแอร์คู่ใจ เจ็ดโมงครึ่งก็ปั่นไปรวมตัวกับเค้าที่ตึกช้าง
ปีนี้เลยอดไปขึ้นรถไฟฟ้าฟรีเหมือนปีที่แล้ว เพราะมันนัดรวมพลกันใกล้ๆ บ้าน
ถึงตึกช้างก็เจอพี่ป๊อกนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มีรถจักรยานมากันเยอะแยะไปหมด
ทั้งรถเก่ารถใหม่ รถแม่บ้าน รถโบราณ รถซื้อกับข้าว รถส่งลูกไปโรงเรียน รถนอนปั่น! ฯลฯ
แปดโมงก็ร้องเพลงชาติกันหน้าตึกช้าง แล้วก็ยกขบวนปั่นไปสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
ไปตามเส้นทางพหลโยธิน ตัดเข้าวิภาวดีรังสิตตรงแยกลาดพร้าว
อากาศเป็นใจมาก เมฆครึ้มๆ แต่ฝนไม่ตก แดดเลยไม่มี ปั่นแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ไม่ทันสนุกเท่าไหร่
ถึงหน้าสนามไทยญีุ่ปุ่น ก็มีสาวสวยมารอต้อนรับ (ว้าว..) รู้สึกจะเป็นอดีตนักร้องดูโอหญิง
เจอหน้าบ่อยๆ สมัยอยู่ ais เรียกแต่ว่าโน้ต-ตูน จนติดสมอง แต่ไม่รู้ว่าคนไหนโน้ต คนไหนตูน (-_-“)
จอดรถกันก็ไปลงชื่อ แล้วก็สิ่งสำคัญเลย ข้าวกล่องฟรี! (กล่องใหญ่มาก แกงมัสมั่นกับทอดมัน อร่อยด้วย)
กินเสร็จ ก็เตรียมไปรวมตัวกลางสนามกีฬา แปรขบวนเป็นรูปแผนที่ประเทศไทยเหมือนปีก่อน
การจัดการโอเค ทยอยต้อนนักปั่นลงไปยืนเรียงตามจุดที่มาร์คไว้ ถ่ายรูปออกมาสวยงามแน่นอน
ใส่เสื้อยืดที่ได้รับแจกเหมือนกัน มีถุงผ้าสีฟ้าสวย ร่มคนละคัน ตามสี ผมได้ตำแหน่งตรงจังหวัดแม่ฮ่องสอน
แถวๆ เดียวกับปีที่แล้วเปี๊ยบเลย ได้ร่มสีฟ้า ก็ยืนประจำจุด รอคนอื่นๆ ทยอยเข้าสนาม
ก็เข้าใจว่านานแน่ๆ เพราะต้องใช้คนกับรถรวมกัน 1551 คัน (ถ้าฟังไม่ผิด) มากกว่าปีที่แล้วอีก
ระหว่างรอก็ไปนั่งๆ คุยกันข้างสนาม ถึงเวลาก็เข้าประจำจุด ถ่ายรูป แต่พระช่วย!
ทางผู้จัดงาน ต้องมีพิธีการอัญเชิญบรรดาท่านๆ ทั้งหลายมายืนอ่านโพย ประหนึ่งว่าได้ช่วยสร้างสรรค์วาระพิเศษนี้ขึ้นมา
และร่วมยินดีที่พวกเราประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน สนใจจะมาดูแผนที่ประเทศที่สร้างจากนักปั่นนับพันคน บลาๆๆ
เซ็งครับพี่น้อง ยังไม่พอ!…มีการแสดงของเด็กนักเรียนต่ออีก
โอ้..แม่เจ้า คนในสนามยืนเรียงกันเป็นพันคนมันจะได้ดูด้วยมั้ย มีแต่ทั่นๆ บนอัฒจรรย์นั่นแหละ ที่นั่งดูสบายใจเฉิบ
ทำไมไม่เห็นใจคนที่ยืนเรียงแถวอยู่ในสนาม กางๆ หุบๆ ร่มตามความต้องการของผู้จัดที่อยากให้เกิดภาพอันสุดประทับจิต
และบรรยายตลอดเวลาว่า โอว..มันเป็นภาพที่สวยงามมาก ดิฉันอยากให้ทุกท่านได้มาเห็นตรงนี้จริงๆ (จากข้างบน)
แหงสิ..คุณลองมายืนร่วมกับพวกเราพันกว่าคนข้างล่างนี่มั่งมั้ย พวกน้าๆ อาๆ ที่ยืนใกล้ๆ ก็บ่นกันใหญ่
บอกว่าดีนะที่แดดมันไม่ร้อนมาก ไม่งั้นคงมีเดินออกประท้วงแหงๆ
มีคุณน้าข้างๆ คนนึงน่ารักมากครับ เข้าใจว่าทำงานเป็นครู ระหว่างรอแกก็เอางานขึ้นมาทำ
เป็นใบคะแนนของนักเรียนในชั้น เพื่อนๆ ที่ยืนใกล้ๆ ก็มีแซวกันสนุกสนาน
สรุปว่าเข้าไปยืนตั้งแต่ก่อนสิบโมง เสร็จเกือบเที่ยง เคืองมาก ปีหน้าจะไม่ลงไปร่วมด้วยแล้ว
คนชอบปั่นจักรยานไม่ชอบหรอกครับ มายืนเฉยๆ เป็นชั่วโมงน่ะ ปีหน้าผมขอปั่นอย่างเดียวดีกว่า
ลาขาดกันที ลัทธิพิธีการ ฮ่าๆๆ
ู
ปีนี้ไม่มีผู้ว่ากทม.มาเป็นประธาน เพราะยังไม่ได้เลือกใหม่ เราเลยได้เห็นบรรดาว่าที่ผู้ว่ากทม.มาเนียนๆ โชว์ตัว
กับถ่ายรูปอยู่ในงานตามสเต็ปบังคับของฤดูหาเสียง
พอถ่ายรูปอะไรกันเรียบร้อย ก็แยกย้ายกัน ผมมาแวะดูบูธนู้นบูธนี้ไปตามเรื่องตามราว
หน้างานมีน้องๆ นักเรียน ที่อาจารย์พามาโชว์ฝีมือกับจักรยานล้อเดียว เจ๋งมาก ผมก็ว่าจะหัดอยู่เหมือนกัน
ไปนั่งรวมตัวกันที่บูธร้าน Max Rider กินข้าว พูดคุยกันกับเพื่อนๆ
น้าเด๋อ เจ้าของร้าน และเป็นคนจัดแข่ง Kona Bike Park ก็ชวนให้ไปแข่ง Kona Bike Park #5
ที่เจ็ดคต สระบุรี อาทิตย์หน้านี้ แล้วก็กำชับให้ไปให้ได้
“ทำสนามหมดไปเป็นหมื่น ถ้าไม่มาซ้อม ไม่มาแข่งกัน จะโกรธให้ดู”
จัดมาถึงครั้งที่ 5 แล้วเหรอเนี่ย ผมไปครั้งแรกหนเดียวเอง
โอเคครับน้า กลัวน้าเคือง ไม่นำเข้าสินค้าแบรนด์ Kona เดี๋ยวผมไม่มีอะไหล่ใช้
เลยแอบเดินหนีไปกินข้าว ยังไม่ตกปากรับคำ play safe ไว้ก่อน
แอบเอารถคนนู้นคนนี้ไปลองปั่นๆ ขย่มๆ เล่น สะใจมาก น้องแอร์อีกคันนึงของน้าเด๋อโดนจับเปลี่ยนช็อคหน้าใหม่
เบามาก จะยกหน้าหรือลองโดดทีนึงก็ลอยอย่างง่ายดาย น่าเสียเงินเป็นอย่างยิ่ง 😛
กินเสร็จ ก็แยกย้าย ปั่นกลับบ้าน ลัดเลาะไปตามเส้นทางตลาดห้วยขวาง แว่บผ่าน ม.หอการค้า
ปั่นกันเป็นขบวน สนุกดีครับ แล้วก็มาทะลุตรงสุทธิสาร ก็ตัดเข้าวิภาวดีรังสิต ปั่นอัดยาวไป
บ่ายโมงกว่าๆ ก็ถึงบ้าน ที่เหลือไปเล่นโดดเนินกันต่อที่สวนรถไฟ แล้วก็ใต้ทางด่วนเกษตร-นวมินทร์
ส่่วนผมก็นอนดูดีวีดีเดี่ยว 7 อยู่บ้าน พักผ่อน เป็นอันหมดไปหนึ่งวัน…
ปล.ปีนี้ไม่ได้พกกล้องไปเหมือนปีก่อน เลยใช้กล้องมือถือถ่ายมาแค่นิดหน่อยเอง คุณภาพพอทน
รูปอื่นๆ ก็ดูได้ที่ flickr เหมือนเดิม
มีนิดเดียว ถ้าอยากดูเพิ่ม อีกซักพักคงมีโพสในมัลติพลาย ไม่ก็ในพันทิปกันให้ตรึม เห็นมีตากล้องไปกันหลายคน