เที่ยวลาว แบบรวบรัด

เพิ่งกลับจากลาว รู้สึกล้าหลังมากที่เพิ่งเคยไป ขอบันทึกไว้หน่อย
– ลาวหลังยุคสร้างชาติและอัตลักษณ์ พยายามก้าวขึ้นมาทำนู่นนี่เยอะดี เป็นเจ้าภาพงานใหญ่ๆ หลายครั้งทำให้มีถนนใหม่ ตึกใหม่
– รถยนต์ฮุนไดเยอะ พวงมาลัยซ้าย ขับเลนขวา
– ธุรกิจไทยก็เยอะ CP, ปตท., กิฟฟารีน
– ที่วังเวียงอารมณ์คล้ายๆ ปาย แต่มีร้านจักรยานเช่าเยอะกว่ามาก แล้วก็มี Mountain Bike ดีๆ ใหม่ๆ ให้เช่าด้วยราคา 160 บาทต่อ 12 ชั่วโมง ถ้าเป็นจักรยานแม่บ้านธรรมดาก็ 50 บาทเอง
– โชคร้ายไปวังเวียงตอนอากาศร้อนและฝนเพิ่งตก ทำให้มี “มดบิน” อยู่เต็มไปหมด ปั่นไปก็โดนมดกัดตลอดเวลา เหงื่อออกแถมเจ็บๆ คันๆ น่ารำคาญมาก
– ใช้เงินไทยได้สะดวกจนลาวต้องมีคัตเอาท์รณรงค์ทำนองว่า “อยู่เวียงจันทน์ ใช้เงินกีบ” ประมาณว่าใช้เงินของชาติเรากันเองเถอะ
– อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท แลกได้ 250-260 กีบ กินข้าวมื้อใหญ่กันทีนึง เจ็ดแสน ทิปเด็กเสิร์ฟสองหมื่นห้า รู้สึกป๋ามาก
– ธนบัตรของลาวใช้รูปนายไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศ คนที่ 3 (สมัยปี 2534-35)
– อักษรภาษาลาวคล้ายไทยมาก เชื่อว่าคนไทยทุกคนอ่านเข้าใจได้ไม่ต่ำกว่า 90% แน่นอน เก็บโบรชัวร์มาอ่านเล่นสนุกดี พยายามหาซื้อหนังสือแนวซุบซิบดารามาอ่าน แต่หาไม่ได้เลย ผิดหวัง
– เพิ่งรู้ว่าแขวงนครหลวงเวียงจันทน์ แยกออกมาจากแขวงเวียงจันทน์ 20 กว่าปีแล้ว เมืองหลวงเวียงจันทน์อยู่ในแขวงนครหลวงฯ นี้เอง แต่ป้ายทะเบียนรถยังใช้ชื่อ “กำแพงนครเวียงจันทน์” ที่เป็นชื่อเก่าอยู่
– ไฮไลท์ส่วนตัวคือการไปดูอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์ที่ริมน้ำแม่โขงยื่นมือมาทางฝั่งไทย ลาวบอกว่าหมายถึงการ “ให้อภัย”
– หอพระแก้ว สวยดี แม้จะสร้างใหม่หมดเพราะโดนกองทัพสยามเผาทำลายตอนไปเอาพระแก้วมรกตมากรุงเทพ มีพระพุทธรูปสวย และเงาวับจากการโดนคนลูบคลำขัดถู
– มีเหรียญบาทไทยกับแบงค์ยี่สิบไทยวางอยู่ตามพระพุทธรูปทั้งข้างในและรอบๆ หอพระแก้วเต็มไปหมด
– ประวัติหอพระแก้วเขียนว่าเคยประดิษฐานพระแก้วมรกต ซึ่งตอนนี้ถูกนำไปอยู่ “ต่างประเทศ”
– คนขับรถตู้ เป็นคนลาวชื่อพี่วิไลศักดิ์ (ที่จริงรุ่นเดียวกัน) น่ารักมาก ถ้าใครจะไปเที่ยวลาวจากฝั่งไทยโดยข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวที่หนองคายจะแนะนำให้ติดต่อคนนี้
– เบียร์ลาวก็งั้นๆ แหละ กลับมากินลีโอที่บ้านเราดีแล้ว

คราวนี้ไปแค่วังเวียง กับเวียงจันทน์ อย่างละวัน รอบหน้าตั้งใจจะไปดูพระบาง ที่หลวงพระบาง

Comics ลดราคาที่ Kinokuniya สาขา Siam Paragon

มีเพื่อนสมาชิก comics66 มาแจ้งข่าวว่าร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ สาขาสยามพารากอน จัดลดราคาหนังสือการ์ตูนฝรั่ง (comics)
ก็เลยรีบไปดูซะหน่อย ปกติร้านนี้ก็เข้าไปเพื่อซื้อ comics อย่างเดียว เพราะมันมีให้เลือกเยอะสุด
หนังสืออื่นก็เยอะ แต่มันไม่ถูก ซื้อที่อื่นได้ถูกกว่า

ไปถึงก็เจอว่ามันลดจริงๆ ลดมากด้วย มากกว่าทุกครั้งที่เคยจัดมา เหลือเล่มละ 50-100 บาทเอง จากราคา 4xx-7xx บาท
โปรโมชั่นนี้มีถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2012 ใครว่างๆ ก็ไปเลือกหาดูกันได้ นอกจาก comics แล้วก็มีพวกหนังสือต่างประเทศเต็มไปหมดเลย
ก็เลยเลือกได้มาดังนี้

Marvel 1602: New World/Fantastick Four
Marvel 1602: New World/Fantastick Four
เล่มนี้ลดเหลือ 100 บาท (ปกติ 727 บาท) เป็นฉบับปกแข็ง
รวมเล่มมาจาก 1602: New World 1-5 กับ 1602: Fantastick Four 1-5
ผมมี Marvel: 1602 เล่มหลักอยู่แล้วเลยรีบคว้าเล่มนี้เลย
ตัวเล่มหลักแต่งโดยนักเขียนดัง Niel Gaiman ออกมาตั้งแต่ปี 2003
ส่วนเล่มนี้เป็นเนื้อเรื่องเสริม เล่าเรื่องเติมเต็มให้กัน ออกทีหลังช่วงปี 2005-2007
ซีรี่ส์ 1602 คือการเขียนเนื้อเรื่องปลอมประวัติศาสตร์ โดยเอาตัวละครของมาร์เวลที่คนอ่านรู้จักดี
มาดัดแปลงเป็นตัวละครในยุคปี ค.ศ. 1602 แล้วก็มีเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ เกิดขึ้น
สังเกตได้ว่า Fantastic Four ปกติ โดนจับแปลงเป็น Fantastick Four
หรือ Nick Fury ก็เปลี่ยนเป็น Sir Nicholas Fury, Peter Parker กลายเป็น Peter Parquagh เป็นต้น

Dark Reign: Elektra
Dark Reign: Elektra
ลดเหลือ 50 บาท (ปกติ 491 บาท) รวมเล่มมากจาก Dark Reign: Elektra 1-5 ที่เคยออกขายตั้งแต่ปี 2009
เล่มนี้อ่านตอนออกรายเดือนแล้วสนุกมาก เลยซื้อเก็บ เล่าเรื่องหลังจากที่อิเล็คตร้ากลับมาจากการโดน Skrull ลักพาตัว
โดยเดินเรื่องต่อจากเหตุการณ์ Secret Invasion หญิงเล็คฯ เรารอดมาก็โดนหน่วย H.A.M.M.E.R. จับไปตรวจเลยหนีออกมา
แล้วต้องปะทะกับ Bullseye คู่ปรับที่ได้ดิบได้ดีตามนอร์แมนไปสวมรอยเป็น Hawkeye แห่ง (Dark) Avengers
มีเฮียวูฟเวอรีนมาแจมด้วยแว๊บๆ ช่วงท้าย
เล่มนี้ภาพสวย ฉากบู๊สนุก เป็นตอนโชว์เทพของ Elektra อีกตอนนึง สมฉายา “หนึ่งในมือสังหารที่อันตรายที่สุดในโลก”
ใครยังไม่เคยอ่านขอแนะนำ 😉
(เสียดายที่เวอร์ชั่นหนังใหญ่ปี 2005 ทำออกมาแย่ไปหน่อย)

Dark Reign: Fantastic Four
Dark Reign: Fantastic Four
ลดเหลือ 50 บาท (ปกติ 494 บาท) รวมเล่มจากลิมิเต็ดซีรี่ส์ฉบับรายเดือนชื่อเดียวกัน 5 เล่ม (จบตอน)
นี่ก็เป็นเนื้อเรื่องยุคนอร์แมน ออสบอร์นครองอำนาจใน H.A.M.M.E.R. เหมือนกัน
แถมยังจะมาบุกตึก Baxter Building ของสี่กายสิทธิ์ ต้องเจอกับสองเด็กเกรียนอัจฉริยะ
พี่น้องลูกไม้หล่นใต้ต้นของมิสเตอร์แฟนทาสติกกับอินวิซิเบิลวูแมนอย่าง แฟรงคลิน กับ วัลเลอเรีย ริชาร์ด

เนื้อเรื่องหลักจริงๆ เกี่ยวกับผลของการสร้าง The Bridge สะพานเชื่อมมิติของ รี้ด ริชาร์ด
ที่ทำให้ได้พบกับสมาคมรี้ด ริชาร์ดจากต่างมิติ (Interdimensional Council of Reeds)
ยังผลให้เกิดความวุ่นวายมาจนถึงเนื้อเรื่องในปัจจุบันนี้ เพราะเหล่ารี้ด ริชาร์ดทั้งหลาย
ซึ่งเป็นผู้อัจฉริยะ เลยพยายามทำตัวเป็นคุณพ่อรู้ดี อยากจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างในทุกๆ มิติ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
เนื้อเรื่องแต่งโดย Jonathan Hickman ขวัญใจคนใหม่ หลังจากที่อ่านผลงานเค้ามาหลายเล่ม
พบว่าฮิคแมนเขียนเรื่องแนว Sci-Fi ได้บรรเจิดมาก โดยเฉพาะ S.H.I.E.L.D.

Secret Six: Unhinged
Secret Six: Unhinged
เล่มสุดท้าย 50 บาทเหมือนกัน (ปกติ 507 บาท)
รวมเล่มจากหัว Secret Six ของค่าย DC ตั้งแต่เล่ม 1-7 ที่ออกเป็นรายเดือนตั้งแต่ช่วงปี 2008-2009
เป็นการรวมดาวเหล่าร้ายเกรด B ของ Batman อันได้แก่
Catman, Deadshot, Scandal Savage, Ragdoll และ Bane (นี่มันเกรด B จริงเรอะ!!!)
เนื้อเรื่องเข้มข้นจนได้รับคำชมจากนักวิจารณ์มากมาย
เปิดฉากตอนจบเล่ม 1 ก็ให้ Catman ตั๊นหน้าป๋าแบทของเราแล้วบอกว่า “เบนฝากหวัดดีมาว่ะ” ผัวะ!!!

แต่เนื้อเรื่องแทบไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Batman เท่าไหร่ แต่จะเป็นวีรเวรวีรกรรมของแก๊งเหล่าร้ายพวกนี้มากกว่า
แบบว่า ถึงจะไม่ใช่พระเอก แต่พวกข้าก็มีศักดิ์ศรีนะเฟร้ย ก็ตามล่าล้างแค้นอะไรกันไป
พูดง่ายๆ ก็คือว่า หัว Secret Six นี่แต่งขึ้นมาให้เหล่าร้ายเป็นพระเอกแบบโหดเลวเหี้ยมบ้างนั่นเอง

ทางฝั่ง Marvel ก็มีกลุ่มผู้ร้ายชื่อคล้ายกันแบบนี้เหมือนกันนะ คือ Sinister Six
แต่ไม่ได้มีเล่มให้ทำตัวเป็น anti-hero แบบนี้เลย เลวอย่างเดียวเลย
นำโดย Doctor Octopus แล้วก็ Sandman, Chameleon, Electro, Mysterio แล้วก็ Rhino
เร็วๆ นี้ (ต้นปี 2012) ก็กำลังจะมีเรื่องใหม่ ฟอร์มทีมมาลุยกับ Spider-Man อีกแล้วใน Ends of the Earth

หมดแล้วครับ เสียทรัพย์ไป 250 บาท สบายใจ ^_^

กรงไม่ใช่บ้าน ร่วมกันคืนนกปรอดหัวโขนสู่ธรรมชาติ

สถานการณ์นกปรอดหัวโขนในธรรมชาติ
(คลิกที่ภาพเพื่อดาวน์โหลดเอกสาร PDF)
ร่วมกันคัดค้านการปลดนกปรอดหัวโขน (หรือที่ผู้เลี้ยงนกเรียกกันว่า “นกกรงหัวจุก”) ออกจากรายการสัตว์ป่าคุ้มครอง
เพียงส่งชื่อ-นามสกุล และหรือถ้าสะดวกใจ ก็เพิ่มที่อยู่ กับเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ไปด้วย
ที่ FreeRWB@gmail.com
RWB = Red-Whiskered Bulbul แปลตรงๆ ตัวว่า นก[ในวงศ์นก]ปรอด[ที่มี]หนวด[สี]แดง
(ที่จริงน่าจะเรียกว่าแก้มแดงมากกว่า)

แถมอีกอันนึง เป็นข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับนกชายเลนปากช้อนที่เหลืออยู่เพียงไม่ถึง 400 ตัวในโลก
สถานการณ์ของนกชายเลนปากช้อน
(คลิกที่ภาพเพื่อดาวน์โหลดเอกสาร PDF)
ภาพและเอกสารจากสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย

ผมชอบดูนก แล้วก็เป็นนักดูนกมือสมัครเล่นครับ
อยากเชิญชวนกันมาเลี้ยงนกด้วยวิธีธรรมชาติแบบนี้กันดีกว่า
ซุ่มถ่ายน้องนกอาบน้ำ

ผมเองก็ได้ส่งชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่และข้อเสนอแนะบางส่วนไปให้สมาคมฯ แล้ว หวังว่า 1 เสียงของเราจะช่วยอะไรได้บ้าง 🙂

ครบรอบ 1 ปี

ทิ้งบล็อกไว้ร้างจนได้ที่พอดี
ช่วงนี้ไปใช้ชีวิตอยู่ใน social network ซะเยอะ

ทำไงกะที่นี่ดีล่ะทีนี้ – -”

ปล. หนัง Source Code สนุกดีนะครับ ถ้าไม่รู้จะดูอะไรก็ไปดูเรื่องนี้แหละ 🙂

Kick-Ass เกรียนโคตรมหาประลัย

พฤหัสที่ผ่านมาวาสนาดีได้รับแจกตั๋วรอบสื่อมวลชนจากพี่ @hiangg ในทวิตเตอร์
รีบไปดูอย่างลิงโลด เพราะติดตามมาตั้งแต่รู้ว่าจะเอาการ์ตูนเรื่องนี้ไปทำเป็นหนัง
โดยฝีมือผู้กำกับแมทธิว วอจ์น ที่ชอบมาตั้งแต่ Layer Cake กับ Stardust

หนังฉายสองทุ่มที่สกาล่า ก็ไปเอาตั๋วแต่หัวค่ำ
kick-ass ticket

ตัวการ์ตูนต้นฉบับนั้นเป็นผลงานการเขียนเนื้อเรื่องของมาร์ค มิลล่าร์ กับคนวาดจอห์น โรมิต้า จูเนียร์
ผลลัพธ์ออกมาเป็นแนวลายเส้นสวยดิบ เนื้อเรื่องดุดันปนอารมณ์ขันร้ายกาจ
ว่าด้วยเด็กหนุ่มบ้าการ์ตูนที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครคิดอยากเป็นซูเปอร์ฮีโร่แบบในหนังสือบ้าง
แล้วเจ้าตัวก็เริ่มซะเอง สั่งชุดจากอินเตอร์เนท แล้วออกผดุงความยุติธรรมโดยที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร
ฉากจบเล่มแรกคือโดนผู้ร้ายอัดน่วมต้องเข้าโรงพยาบาลอาการสาหัส!
ทำให้โทนเรื่องดูเหมือนฮา แต่ลายเส้นซีเรียสจริงจังเลือดสาด สไตล์ตลกร้าย

Kick-Ass issue 2 cover
หน้าปกการ์ตูนเล่ม 2 ที่บอกเหตุการณ์ตอนจบของเล่มแรกได้ชัดเจน

หลังจากนั้นก็ยังไม่เข็ด ออกมาปฏิบัติการอีก ระหว่างที่ตะลุมบอนกับกลุ่มผู้ร้าย
บรรดาฝรั่งมุงที่นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังถ่ายวีดีโออัพโหลดขึ้น YouTube
ทำให้ตัวเอกที่เรียกตัวเองว่า Kick-Ass ดังระเบิดไปทั่วอเมริกาในชั่วข้ามคืน

มาร์ค มิลล่าร์นั้นกำลังกลายเป็นบุคลากรที่ฮอลลีวู้ดต้องการตัวหลังจากการ์ตูน Wanted
ถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังและประสบความสำเร็จ ทำให้มิลล่าร์มีเนื้อเรื่องการ์ตูนที่กำลังจะออกมาเป็นหนังอีกหลายเรื่อง
(ถ้าสนใจผลงานการ์ตูนที่มิลล่าร์เขียน แนะนำให้ลองไปอ่าน Wolverine: Old Man Logan ที่ Comics66) ^_^

kick-ass all characters
ตัวหนังค่อนข้างเดินตามการ์ตูน เว้นแต่ตัวละคร Hit Girl กับ Big Daddy ที่ออกแบบแตกต่างไป
แต่ก็เหมาะสมกับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ดี
หนังใส่ลูกเล่นแพรวพราวทั้งเทคนิคด้านภาพที่มีส่วนผสมทั้งการ์ตูนและวีดีโอเกม
ภาพการ์ตูนในหนังก็ได้โรมิต้ามาวาดให้เหมือนเดิม

ฉากรุนแรงทั้งหมดถูกทำให้ดูเบาลงด้วยภาพสโลว์บ้าง ด้วยดนตรีประกอบให้ดูเป็นทีเล่นทีจริงบ้าง
ทำให้หนังไม่ดูโหดเสียวสยองแบบ Ninja Assassin หรือพวกหนังของเควนติน ทารันติโน่
และยังมีมุกตลกแทรกเป็นระยะ

ตัวละคร Hit Girl น่าจะเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด รับบทโดยน้องโคลอี้ มอเร็ตซ์
ที่เพิ่งดูผ่านตามาในบทน้องสาวแก่แดดของพระเอก (500) Days of Summer
มาเรื่องนี้ก็โชว์ลีลาแอ๊คชั่นแถมบทพูดก็เปรี้ยวแก่นแสบซ่าน่ารักเป็นที่สุด
ซึ่งตอนดูหนังตัวอย่างผมคิดว่าจะไม่ค่อยชอบซะอีก เพราะคิดว่ามันแต่งตัวไม่เหมือนการ์ตูนมากเกินไป
แต่เอาเข้าจริงปรากฏว่าเจ๋งมาก

ความแตกต่างของการเล่าเรื่องของหนังกับการ์ตูนคือ ในการ์ตูนเราคนอ่านจะไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่า
Big Daddy กับ Hit Girl คือใคร ซึ่งทำให้การเปิดตัวของสองคนนี้เป็นเรื่องน่าทึ่งและชวนช็อค
แต่หนังไม่ปิดบังที่จะเล่าถึงสองคนนี้ต่อจากตัวเอกเลย แต่ฉากเปิดตัวก็ทำได้เจ๋งไม่แพ้กัน
ธรรมชาติของการ์ตูนมันจะหักมุมที่ท้ายเล่มเพื่อให้อยากอ่านเล่มต่อไป
แต่หนังเล่าเรื่องให้เห็นภาพกว้างแล้วค่อยๆ ตีวงเข้ามา กั๊กทีเด็ดไว้นิดหน่อย และก็ทำได้ดีมากๆ
เนื้อเรื่องค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกับการ์ตูน ไม่ได้แตกต่างกันมากเหมือนกรณีเรื่อง Wanted
เข้าใจว่าเพราะมิลล่าร์ได้พัฒนาบทใกล้ชิดกับผู้กำกับมากกว่าคราวก่อน

kick-ass comic book cover
การ์ตูนมี 8 เล่มจบ (แต่อาจมีต่อ) ฉบับรวมเล่มปกแข็งกำลังจะออกเร็วๆ นี้ ใครดูหนังแล้วติดใจ
เตรียมตัวหาซื้อมาไว้ในครอบครองได้เลย

หนังสนุก ยาวเกือบ 2 ชั่วโมงเต็ม ดูเพลิน ฮาเป็นระยะ แอ็คชั่นพอเหมาะ
เนื้อเรื่องสมจริงเสียดแทงสังคม แม้ว่าจะเคยอ่านการ์ตูนมาก่อนก็ยังสนุกไปกับหนัง
ได้คุยกับคนที่ไม่เคยอ่านก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสนุกและเข้าใจง่าย
เรื่องนี้ได้ เรท น.18 นะครับ เวอร์ชั่นการ์ตูนก็เป็น Parental Advisory เหมือนกัน
ผู้ปกครองควรแนะนำ ไม่ใช่เห็นเป็นหนังการ์ตูนฮีโร่ก็พาลูกเข้าโรงกันเรื่อยเปื่อย

ชอบครับ จะไปเสียเงินดูเองอีกรอบแน่นอน ถ้าจะให้นิยามสั้นๆ
ต้องขอใช้ภาษาเดียวกับหนังว่า It’s F**king Awesome!

ปล. ดาราที่เล่นเป็นหัวหน้าเหล่าร้ายในเรื่องคือ มาร์ค สตรอง เป็นคนที่น่าสนใจมาก
เพราะมักได้เล่นหนังซ้ำๆ กับผู้กำกับคนเดิมที่เคยร่วมงาน (ผู้ร้ายดีเด่น?) แนะนำให้ลองไปไล่เครดิตดูได้
ปอ. ซับไตเติ้ลไทยแปลแบบใส่อารมณ์และสำนวนวัยรุ่นเต็มที่มาก ต้นฉบับก็แจกฟักแฟงและศัพท์สแลงกันเกลื่อน
อาทิ Kick-Ass = เกรียนโคตร, Ass-Kick = โคตรกาก, Hit Girl = จิ๋วจี๊ด, Cunts = เห็ดสด!!!
แถมมีประโยคล้อเลียน Spider-Man อย่าง “With no power comes no responsibility”