ขอดื่มเหล้าให้ดีๆ จะได้ไหม

“…แต่ปัญญาที่รัฐไทยทำกับเหล้านั้นมีแค่การผลิตเหล้าชั้นเลวไว้ฆ่าประชาชนทางอ้อม
และผูกขาดการค้ากำไรไว้แต่เพียงผู้เดียว ในขณะที่ปากก็พร่ำสวดมนต์พูดถึงศีลธรรม ก่นด่าเหล้า
ว่าเป็นต้นตอแห่งความต่ำทรามของสังคม…”

ขอดื่มเหล้าให้ดีๆ จะได้ไหม
คำ ผกา
มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1480
ประจำวันที่ 26 ธ.ค. 2551-1 ม.ค. 2552 ปีที่ 29

ไปบางปู ดูนกนางนวล

อ่านคอลัมน์เชลล์ชวนชิมในมติชนสุดสัปดาห์ เค้าบรรยายอาหารที่บางปูซะน่ากินเลยอยากไปบ้าง
ยิ่งช่วงหน้าหนาวมีนกนางนวลให้ดูด้วย เคยอยากไปมานาน แต่ก็ไม่ได้ไปซักที คราวนี้สบโอกาส
ไปถึงก็ตื่นเต้นมากครับ เกิดมายี่สิบกว่าปี เพิ่งเคยมาบางปูเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้เห็นสะพานสุขตา ศาลาสุขใจ
สมใจอยากแล้ว

ไปถึงก็มีคนเต็มเลย รถจอดเต็มกลางสะพาน นกนางนวลบินกันว่อน มีกากหมูขายไว้โยนให้นกกิน
มีแบบที่เป็นมันไก่สำหรับชาวมุสลิมด้วย นกก็บินโฉบกันไปมา
ผมไม่ค่อยได้ดูนกนางนวลเท่าไหร่นัก เพราะส่วนมากดูแต่นกบ้าน นกสวน (เคยเขียนชวนดูนกในสวนรถไฟ)
นกน้ำก็ดูบ้้างสมัยอยู่ชลบุรี ส่วนมากมีแต่นกยาง พวกยางโทน ยางกรอก ยางควาย นางนวลก็มีบ้าง
แต่ไม่เคยเห็นเยอะเต็มท้องน้ำแบบที่บางปู ดูเพลินไปเลย

เดินข้ามสะพานมาก็เจอนกเข้าแถวต้อนรับ น่ารักจริงๆ มองไปเห็นมีตัวนึงผิดประหลาดกว่าชาวบ้าน
พอดูชัดๆ ก็เห็นขายาว คอยาว ตัวขาว ตีนดำ เกาะอยู่ตัวเดียวโดดๆ แบบนี้ เป็นยางโทนแน่นอน
ถ้าเพ่งดูดีๆ จะเห็นปลายปากเป็นสีดำ นั่นคือ ยางโทนน้อย ถ้ายางโทนใหญ่ปากจะเหลืองทั้งปาก
ยกเว้นฤดูผสมพันธุ์ ปากจะดำ และมีขนเจ้าชู้ยาวที่อกและหางทั้งสองชนิด
นกยางโทนน้อย

ส่วนมากที่บางปูจะเป็นนกนางนวลธรรมดา กับนกนางนวลแกลบ แต่ผมจำได้แต่นางนวลธรรมดา เพราะมีเอกลักษณ์ที่ปลายปีก
จะเป็นแต้มสีขาวในนกโตเต็มวัย ถ้าเป็นนกเด็ก (คู่มือดูนกใช้คำว่า นกวัยอ่อน แต่ผมชอบเรียกนกเด็ก) จะยังไม่มีแต้มขาว
แต่ปลายหางกับแถบปีกบินจะเป็นแถบสีดำ
นกนางนวลธรรมดา

เวลาแช่น้ำปีกจะพับไปข้างหลังเห็นเหมือนเป็นหางสีดำ ดูตอนบินถึงจะเห็นว่าหางสีขาวล้วน
นกนางนวลธรรมดา

ดูมันมองไปทางเดียวกันหมดเลย น่ารักดี สายตารอคอยชิ้นกากหมูที่จะหล่นลงมา แต่ส่วนมากโดนโฉบกลางอากาศไปหมด
ดูที่บางปูเลยไม่ได้เห็นฉากโชว์จับปลา เคยเห็นที่เกาะลอยศรีราชา จะมีนกนางนวลมาหากิน 3-4 ตัว บินโฉบปลากินกัน
มันจะบินวนอยู่เหนือน้ำไม่สูงมาก แล้วก็พุ่งตัวลงไป ถ้าตาไวพอก็จะเห็นปลาตัวเล็กๆ ติดปากนกขึ้นมา
เผลอแป๊บเดียวมันก็กลืนไปแล้ว เท่มาก แต่นกบางปูกลายเป็นนกขี้เกียจไปแล้ว (หรือมันไม่ค่อยมีปลาให้จับ)

ในคู่มือดูนกของหมอบุญส่งบอกว่า นกจะเปลี่ยนชุดขนเป็นชุดแต่งงาน ก่อนบินกลับไปผสมพันธุ์ที่บ้านเกิดแถวไซบีเรีย
ก็จะเห็นหัวเป็นสีน้ำตาลเข้มสมกับชื่ออังกฤษของมันคือ Brown-headed Gull แล้วก็ขอบตาขาว
ในช่วงปลายฤดูหนาว คงประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน ไว้จะไปดูอีกที

นกนางนวลนี่จะดูกันละเอียดๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่่ายนัก ยังดีที่นกตัวผู้กับตัวเมียไม่ค่อยแตกต่างกันเหมือนนกบางชนิด
แต่ก็มีชุดขนหลายชุด ตั้งแต่นกวัยอ่อน นกโตเต็มวัย แล้วยังแตกต่างกันในฤดูผสมพันธุ์กับนอกฤดูผสมพันธุ์อีก
ของแบบนี้ต้องไปดูของจริง และดูบ่อยๆ ลำพังดูจากรูปวาดในคู่มือดูนกหรือรูปถ่ายก็จะจำไม่ได้เหมือนได้เห็นของจริงด้วยตัวเอง
สมองเราก็น่ามหัศจรรย์ดีนะครับ เสียดายที่ไม่มีเวลาไปเดินแถบป่าชายเลน เลยไม่ได้เห็นพวกนกกระเต็นบ้างเลย

ดูนกจนพอใจแล้วก็ไปกินข้าวในศาลาสุขใจต่อครับ ไม่มีอะไรมาก มาบางปูก็ต้องกินปูครับ
ดูราคาปูไข่ ปูเนื้อนึ่ง 500-700 บาท ก็ตัดสินใจสั่งทันที ปูหลน 180 บาท (ปูนึ่งมันแพงอะ)
มากับผักสด น่ากินมาก อร่อยดีด้วย
ปูหลน

ต่อไปก็ แกงส้มกุ้งชะอมไข่ ตอนเสิร์ฟเค้าจะแยกชะอมชุบไข่ทอดกับผักมาต่างหาก ก็เทรวมกันกับน้ำแกงส้มที่มีกุ้งอยู่แล้วซะ
อร่อยพอควร แต่หม้อไฟบู้บี้ไปหน่อยนะ หม้อนี้ก็ 180 บาท
แกงส้มกุ้งชะอมไข่

อีกอันนึงก็ ปลาหมึกทอดกระเทียมกรอบ ปลาหมึกนะครับที่กรอบ ไม่ใช่กระเทียม กรอบอร่อยดีจริง เหมาะจะเป็นกับแกล้มมาก
จานนี้ 100 บาทถ้วน แอบแพงเล็กน้อย
ปลาหมึกทอดกระเทียมกรอบ

อาหารโอเค บรรยากาศจอแจหน่อยไม่ถึงกับหนวกหูมาก แต่พอฟ้าเริ่มมืดเท่านั้นแหละ ยุงชุมสุดๆ รีบกินรีบกลับก็จะเป็นการดี