Life in the Googleplex

มีคนส่งลิงค์มาให้ดู กูเกิ้ลเพล็กซ์คือสำนักงานใหญ่ของกูเกิ้ลครับ
นับถึงสิ้นปีที่แล้ว กูเกิ้ลมีพนักงานที่ทำงานเต็มเวลาทั่วโลกเกือบหกพันคน
เฉพาะที่สำนักงานใหญ่กูเกิ้ลเพล็กซ์นี่ก็มีราวพันคนเข้าไปแล้ว

ถ้าใครเคยคลิกซอกแซกเข้าไปอ่านใน About Google
ตรงหัวข้อ Corporate Info ที่เวบของกูเกิ้ลเองก็จะมีให้ดูบ้างเหมือนกัน

เห็นแล้วก็ได้แต่อึ้ง แล้วก็รันทดในชะตาชีวิตชาวเราในเมืองไทยจริงๆ
อ่านคำบรรยายภาพไปด้วยแล้วยิ่งได้อารมณ์
อาทิ อาหารฟรี 3 มื้อ, สระว่ายน้ำส่วนตัว, ร้านตัดผม, โต๊ะพูล, วอลเลย์บอลชายหาด!!!
ที่ทำงานใครมีบรรยากาศใกล้เคียงแบบนี้บ้างมั้ยเนี่ย

คลิกที่รูปเพื่อดูภาพทั้งหมดได้เลยครับ

ที่มาTime Magazine

กระทบไหล่ชัทเทิลเวิร์ธ

ความจริงก็ไม่ได้ไปกระทบอะไรหรอก แต่ก็อยู่ห่างไม่เกิน 2 เมตร
พอใด้เห็นท่ายกเท้าขึ้นเหยียบเก้าอี้ขณะตอบคำถามของเฮียแกชัดๆ แหละ 🙂

จากเมื่อวานน้องที่ทำงานด้วยกันเข้ามาเห็นรูปชัทเทิลเวิร์ธ ถึงกับอุทานว่า…หล่อจัง
แต่ผมเห็นตัวจริงเป็นๆ มาแล้ว ขอฟันธงว่า…หล่อจริงครับ หล่อกว่าในรูปเยอะ
เรียกว่ารัศมีดาราจับเลยแหละ ทั้งบุคลิกท่าทางเวลาพูด จัดว่าเป็นคนน่ารัก แล้วก็อารมณ์ดีใช้ได้
เป็นเศรษฐีหนุ่มอายุแค่ 32 ปี แถมหน้าตาดีอีกต่างหาก คนอะไรเนี่ย…

พยายามงัดเอา w800i คู่ชีพมาถ่ายรูปเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ได้เรื่อง
ห้องแสงน้อย แถมกล้องในมือถือก็โฟกัสช้ายิ่งกว่าอะไร เป็นอันว่าแห้ว

ทั้งห้องมีคนมาประมาณห้าหกสิบคนทั้งไทยและเทศ
โชคดีที่งานนี้ไม่ต้องฟังชัทเทิลเวิร์ธเพียวๆ เพราะเค้ามีล่ามฝรั่งช่วยแปลให้สลับไป
เอาแค่จับใจความได้ ทับศัพท์บ้าง ช่วยกันคิดคำไทยให้เค้าบ้าง
เสียดายที่ผมเข้าช้าไปนิดนึง เลยไม่ทันรู้จักคุณที่มาช่วยทำหน้าที่ล่ามคนนี้
บรรยากาศก็เป็นกันเองและค่อนข้างสนุก (คงเพราะคนไม่เยอะ)
ได้หัวเราะกันบ่อยๆ คิดว่าส่วนมากคนที่มา ก็ฟังกันเองเข้าใจในระดับนึง

ตอนโชว์ว่ารัน WinXP บน Ubuntu ใน VMWare ได้
เค้าบอกว่าอย่าถ่ายรูปเค้าคู่กับหน้าจอที่เป็น WinXP ไปนะ
ก็ฮากันทั้งห้อง

รวมๆ งานนี้ก็มาแนะนำ Ubuntu เรื่องข้อดีว่าน่าใช้ยังไง
รวมทั้งแนวคิด แล้วก็ community ที่เค้าสร้างขึ้น
ตอนหลังก็มีเดโมให้ดูเวอร์ชั่น 6.04 (The Dapper Drake) นิดหน่อย
แค่ให้เห็นว่ามันมีตัวติดตั้งแบบกราฟฟิกแล้ว ซึ่งหลายคนก็รอกันอยู่
แต่ก็ไม่ยักเห็นคนจาก Canonical Ltd. ที่เป็นทีมพัฒนาเลย
ชัทเทิลเวิร์ธพูดอยู่คนเดียว

ไฮไลท์ก็เป็นช่วงถามตอบนี่แหละครับ เพราะสไลด์ก็ธรรมดาอย่างที่ผ่านหูผ่านตามาทั่วไป
มีพาดพิงถึงไมโครซอฟท์บ้างตามปกติของงานแบบนี้ (เพราะมันต้องมีคนถามทุกที)
แล้วก็คู่แข่งอย่าง RedHat แต่ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เพราะถือว่าถนัดกันคนละด้าน
ส่วน OS X (โอเอสเท็น ไม่ใช่โอเอสเอ็กซ์นะ) ของแอปเปิ้ลเค้าก็ว่าสวยและน่าสนใจ
แต่มันไม่ opensource ยังไงก็ยืนยันว่ามาใช้ ubuntu กันเถอะ ว่างั้น…

มีคนถามเรื่อง Goobuntu เหมือนกัน เค้าก็ปฏิเสธไปว่าเป็นเรื่องลือกันสนุกๆ
ไม่รู้เตี๊ยมกับกูเกิ้ลไว้ดีรึเปล่า 😀
แต่ผมก็เลือกจะเชื่อว่าเป็นข่าวลือแหละนะ

จบงานก็ได้ CD เวอร์ชั่น 5.10 (The Breezy Badger) ติดมือกลับมาด้วย แพ็กเกจสวยดีครับ

ผมเป็นพวกบ้าเห่อซะด้วย คราวนี้จะได้ลองเล่นซะที ถึงจะช้าไปหน่อยก็เหอะ 😛

Introducing Mark Shuttleworth

วันนี้หกโมงเย็นต้องรีบไป ICT Learning Center ที่ Central World Plaza
เป้าหมายคืองานสัมมนา Thai Linux User Group ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 11 เข้าไปแล้วแล้ว
ครั้งก่อนๆ ก็ไม่ได้เคยไปหรอก แต่ครั้งนี้มันน่าไป หัวข้อสัมมนาคือ Ubuntu – Linux for Human Beings

ที่ว่าน่าไปก็เพราะตัวคนพูดคือผู้ก่อตั้ง Linux ตัวนี้กับบริษัทที่เป็นทีมพัฒนามาเองเลย
ลีนุกซ์ชื่อประหลาดๆ นี้ก็เคยได้ยินชื่อมาพักใหญ่แล้ว ซักปีนึงได้
แต่ก็ยังไม่ได้ลองเล่นซักที เลยจะขอไปดูด้วยตาก่อนก็แล้วกัน

ที่อยากเขียนถึงคุณคนนี้ก็เพื่อให้หลายๆ คนที่รู้จักกัน
จะได้รู้ว่าวงการนี้ไม่ได้มีแค่ บิล เกตส์, สตีป จ๊อปส์ หรือว่า ไลนุส ทอร์วอล แค่นั้น 😛

ผมได้ยินชื่อเค้าครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในฐานะเศรษฐีหนุ่ม(มากๆ) ที่ยอมจ่าย 20 ล้านเหรียญเพื่อขึ้นไปทัวร์อวกาศ
เป็นคนที่สองของโลกต่อจากนักธุรกิจอเมริกัน เดนนิส ติโต แต่นับเป็นชาวอาฟริกาคนแรกที่ได้ออกไปอวกาศ

โดยต้องเตรียมตัว ฟิตซ้อมร่างกายกันเป็นปี เพื่อที่จะได้ขึ้นยานอวกาศโซยุสของรัสเซียไปที่สถานีอวกาศนานาชาติ
ได้อยู่ในอวกาศเป็นเวลาทั้งสิ้น 8 วันถ้วน!!! ระหว่างอยู่บนนั้น ก็ใช้เวลาไปกับการช่วยนักวิทยาศาสตร์
วิจัย ทดลองเกี่ยวกับไวรัสเอดส์กับเรื่องรหัสพันธุกรรม (ซึ่งก็คงเป็นงานของสถานีอวกาศอยู่แล้ว)
ตั้งแต่นั้นเค้าก็คนดังระดับโลกขึ้นมาทันที



Mark Shuttleworth เกิดเมื่อ 18 กันยายน 2516 ในประเทศอาฟริกาใต้
แต่ปัจจุบันเค้าถือสองสัญชาติคือ อาฟริกาใต้ กับ อังกฤษ (Britain)
เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ในอาฟริกาทางด้านการเงินกับระบบสารสนเทศ
หลังจากนั้นเค้าก็เข้ามาในวงการไอที โดยก่อตั้งบริษัท Thawte ซึ่งเป็นผู้ให้บริการออกใบรับรองดิจิทัล
กับระบบความปลอดภัยบนอินเทอเน็ทในปี 2538

Thawte จัดว่าเป็น certificate authority (CA) ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจาก VeriSign
แต่ก่อตั้งมาได้สี่ปี มาร์คก็ขายหุ้น Thawte ให้ VeriSign ไป ได้เงินมา 575 ล้านเหรียญ
กลายเป็นเศรษฐีใหม่ แล้วก็ได้ไปทัวร์อวกาศอย่างที่ว่าไว้ข้างต้นนั่นแหละ

ต่อมามาร์คก็ไปตั้ง HBD Venture Capital กับ The Shuttleworth Foundation
และที่เกี่ยวกับงานวันนี้ที่เซ็นทรัลเวิร์ล ก็คือ Ubuntu Linux ที่พัฒนามาจาก Debian
ว่ากันว่าเป็นลีนุกซ์ที่สวยแล้วก็ใช้ง่ายตัวนึง พัฒนาโดยบริษัท Canonical Ltd. (ซึ่งเจ้าของก็คือมาร์คนั่นแหละ)
ตอนนี้ก็ยังออกลูกหลานมาเป็น kubuntu กับ edubuntu อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับกูเกิ้ลด้วยว่าลีนุกซ์ตัวนี้แหละที่กูเกิ้ลซื้อไปและกำลังซุ่มพัฒนาต่ออยู่ในชื่อ Goobuntu
แต่กูเกิ้ลก็ปฏิเสธข่าวไปเรียบร้อยแล้ว

ubuntu เป็นภาษาอาฟริกันโบราณ แปลว่า humanity to others
ในเวบทางการของเค้าบอกว่า Ubuntu also means “I am what I am because of who we all are”
ผมชอบภาพโลโก้ของลีนุกซ์ตัวนี้มากครับ

มองออกมั๊ยครับ นี่คือความหมายที่แท้จริงของภาพกราฟฟิคข้างบน

เห็นครั้งแรกผมยิ้มเลยครับ สมกับความหมายของ ubuntu จริงๆ

งานปัจจุบันของผมตอนนี้ก็ใช้บริการ CA อยู่กับบริษัท Thawte ของเค้าด้วยนะ
รู้สึกปลื้มนิดๆ เหมือนได้ไปสะกิดไหล่เค้า
ว่า “เฮ้..ผมก็เป็นลูกค้าคุณนะ”
ว่าแล้วเดี๋ยวเย็นนี้ก็เอาซะเลยดีมั้ยเนี่ย 😀

จะว่าไปเห็นคนรวยๆ ทำอะไรแบบนี้ก็รู้สึกดีครับ คนแถวนี้น่าจะเอาอย่างเค้ามั่ง
ไม่ใช่ขายหุ้นได้ตั้งเยอะแถมยังไม่ต้องเสียภาษี รวยกันอยู่บ้านเดียว…อุ๊บส์…

เรียบเรียงจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

BMW.de โดนกูเกิ้ลแบน

เป็นข่าวเกรียวกราวสะท้านวงการเนทไปเมื่อวาน
เมื่อเวบของ BMW บริษัทรถยนต์ชื่อดังในเยอรมันโดนกูเกิ้ลลงโทษ
โดยการปรับค่า PageRank ให้กลายเป็น 0
และมีแนวโน้มว่าเวบต่อไปที่จะโดนก็คือ Ricoh.de (สัญชาติเยอรมันทั้งคู่เลย)

สาเหตุก็เพราะทางทีมต่อต้านเวบสแปมของกูเกิ้ลตรวจพบว่า
มีการใช้เทคนิค Search Engine Optimizers (SEO) ในเวบนั้น
เพื่อทำให้โปรแกรม Web Crawler ของกูเกิ้ลที่มีหน้าที่ท่องไปตามเวบต่างๆ
เก็บค่า pages ของแต่ละเวบ มาทำดัชนี (Index) ในการค้นหา เก็บค่ามาได้เกินจริง
เพราะใครที่มีดัชนีค่าสูงๆ ก็จะมีโอกาสถูกค้นเจอก่อนได้เป็นอันดับแรกๆ

ยังจำได้ว่า 4-5 ปีก่อนที่กูเกิ้ลเริ่มเป็นที่นิยม มีหนังสือและบทความแนะนำเทคนิคที่ว่านี้กันค่อนข้างแพร่หลาย
คือพยายามทำหน้าเวบหลอกพวก Spider หรือ Crawler ที่ Search Engine ต่างๆ ส่งออกมาเพ่นพ่าน
เพื่อให้ได้ค่ากลับไปทำดัชนีสูงขึ้น กูเกิ้ลเรียกหน้าพวกนี้ว่า doorway pages เป็นการเข้าข่ายสแปม
เลยพยายามหาทางป้องกัน จนในที่สุดก็มีรายการเชือดไก่ให้ลิงดูอย่างที่เห็น

เมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้กูเกิ้ลก็เพิ่งงัดข้อกับรัฐบาลกลางสหรัฐมาแล้ว
โดยไม่ยอมส่งข้อมูลการค้นหาข้อมูลทั้งหลายในอินเทอร์เนทของผู้ใช้ให้
ในขณะที่คู่แข่งใหญ่ทั้งสามราย คือ America Online (AOL), Microsoft (MSN Search) และ Yahoo!
ตกลงตามคำขอบางส่วน งานนั้นกูเกิ้ลได้ใจใครหลายคนไปเยอะ (และแน่นอนต้องมีคนเหม็นหน้ายิ่งกว่าเก่า)

มีคนตั้งคำถามว่าถ้าวันนึงกูเกิ้ลไม่ได้เป็นมิตรกับเราแล้วมันจะเป็นยังไง…นั่นสิ…

ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้กูเกิ้ลจะมีอิทธิพลถึงขนาดนี้ได้ แค่ปรับตัวเลขค่าเดียวยังเป็นที่จับตามองของทั้งโลก
นี่ถ้ากูเกิ้ลกำลังซุ่มทำ OS อย่างที่มีข่าวลือจริงๆ คงไม่ไ้ด้มีบิล เกตส์คนเดียวแน่ที่ต้องหนาวๆ ร้อนๆ

ล่าุสุด Gmail ก็ผนวกเอา GoogleTalk เข้าไปแล้วเป็นความสามารถใหม่คือ Chat (ตื่นเต้นดีมั้ยเนี่ย)…

ที่มาNews.com, Matt Cutts’s Blog

ไมโครซอฟท์จับมือกับโซนี่อีริคสัน

ในฐานะสาวกโซนี่อีริคสัน ถึงใครจะว่าช้า แต่ผมเป็นพวกแบรนด์รอยัลตี้
ชีวิตนี้ใ้ช้มา 4 รุ่น ตั้งแต่ยังไม่มีโซนี่แปะอยู่ข้างหน้าอย่างทุกวันนี้
ก็ยินดีกับข่าวนี้นิดหน่อย

งานนี้ไมโครซอฟท์คงหวังจะโตกับตลาดสมาร์ทโฟนเต็มที่
ข่าวยังไม่บอกว่าความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้มือถือใหม่ๆ ของโซนี่เปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการใหม่หรือไม่
ไมโครซอฟท์จะปัดฝุ่น Windows CE ที่ไม่ประสบความสำเร็จนักใน PocketPC มาทำต่อรึเปล่า
หรือจะใช้ Vista (LongHorn เดิม ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาเป็นปี) ที่กำลังพัฒนามาทำให้อีกเวอร์ชั่นนึงเลย
Continue reading “ไมโครซอฟท์จับมือกับโซนี่อีริคสัน”