StumbleUpon : Discover New Sites

StumbleUpon

ชื่อเวบแปลว่า “บังเอิญพบ” ไอเดียเข้าท่าดีครับ
สมัยนี้อะไรๆ ก็ต้อง social network ไว้ก่อน
เค้าโฆษณาว่า StumbleUpon helps you discover great websites.

ตัวเวบมันก็มีมานานแล้วเหมือนกัน แต่ที่เพิ่งมาใช้บริการ
เพราะวันนี้นั่งหา extension นู่นนี่มาลงจิ้งจอกไฟตัวเก่ง
ก็เลยได้ฤกษ์ลงตัวนี้ ตอนนี้นับได้ 20 extensions แล้ว (มีคนเคยลงได้ตั้ง 100 ตัวแน่ะ)
แล้วก็สมัครสมาชิกซะ

เหมาะสำหรับเวลาว่างๆ แล้วไม่รู้จะไปเวบไหน ก็คลิก Stumble! ซะทีนึง
มันก็จะพาไปเวบตามพื้นฐานความสนใจที่เราเลือกไว้ตอนสมัครนั่นเอง
ถ้าเจอเวบถูกใจก็คลิก I like it! บน toolbar ที่ได้มา หรือไม่ถูกใจก็คลิกปุ่มข้างๆ กันแทน
มันก็จะไปเก็บไว้ว่าเราชอบเวบไหน ให้คนอื่นเข้ามาดู มาแชร์ได้

ได้เจอเวบใหม่ๆ เจ๋งๆ เยอะเลยครับ ลองดูนะ…

V (not only) for Vendetta

V for Vendetta

ฉากแนะนำตัวเองต่อหน้านางเอกที่แหกขนบฮีโร่สวมหน้ากากทุกคน
ปกติวีรบุรุษที่ใส่หน้ากากปิดบังตัวเองโดยทั่วไปมักจะพูดน้อย
แต่พี่ V ของเรา พล่ามไปซะ 2 นาที

Voila!
In view, a humble vaudevillian veteran…
cast vicariously as both victim and villain by the vicissitudes of fate.
This visage, no mere veneer of vanity…
is a vestige of the vox populi, now vacant, vanished.
However, this valorous visitation of a bygone vexation stands vivified…
and has vowed to vanquish these venal and virulent vermin vanguarding vice…
and vouchsafing the violently vicious and voracious of volition.

The only verdict is vengeance, a vendetta…
held as a votive not in vain, for the value and veracity of such…
shall one day vindicate the vigilant and the virtuous.

Verily, this vichyssoise of verbiage veers most verbose.
So let me simply add that it’s my very good honor to meet you…
and you may call me “V“.

น่าทึ่งดีมั้ยครับ ผมนับถือคนคิดคำพูดพวกนี้ออกมาได้จัง…
ไม่แน่ใจว่ามีอยู่ตั้งแต่ในฉบับการ์ตูนที่อลัน มัวร์แต่งเลยรึเปล่า
สมกับเป็นคำพูดของคนที่เรียกตัวเองว่า V จริงๆ

ใครได้ยินคงถามเหมือนอีวี่ย์ นางเอกในเรื่อง
“Are you like a crazy person?”
คุณสติไม่เต็มเต็งรึเปล่า?


คำแปลตามซับไตเติ้ลในหนังก็คือ

“นี่ไง…
นักแสดงละครสั้นที่ร้างเวที…
เป็นตัวแทนของเหยื่อและผู้ร้ายตามการผันแปรของโชคชะตา
ใบหน้านี้ไม่ได้เคลือบแฝงด้วยความทรนง
เป็นร่องรอยเสียงประชาชน, ที่ตอนนี้ว่างเปล่า, จางหาย
แต่ความอาจหาญในการก่อกวนยังสร้างชีวิตชีวา
และสาบานจะกำจัดสินบนและผู้นำที่เลวทราม
และสยบความชั่วร้ายและการละเมิดสิทธิอันพึงมี

(เอามีดกรีดกำแพงเป็นรูปตัววี)
คำตัดสินเดียว คือการแก้แค้น, ความพยาบาท
ถือเป็นคำปฏิญาณที่ไม่ไร้สาระ, เพื่อคุณค่าและสัจจะนั้น
วันหนึ่งจะพิสูจน์ความตื่นตัวและถูกต้อง

(เอามือป้องปากหัวเราะชอบใจ)
ที่จริงการใช้คำฟุ่มเฟือยพวกนี้ดูเกินไปหน่อย
ขอเสริมง่ายๆ ว่า เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รู้จักเธอ
และเธอเรียกฉันว่า “วี” ก็ได้…”

ดีวีดีออกมาแล้วสดๆ ร้อนๆ หลังจากหนังฉายไปเมื่อ 4 เดือนก่อน
ตอนดูในโรง ทั้งฟังทั้งอ่านไปด้วยแทบไม่ทัน

ใครที่หวังจะเห็นอะไรแบบ The Matrix คงต้องผิดหวัง
เพราะนี่มันไม่ใช่หนังแอ็คชั่นเต็มตัว ออกแนวเครียดๆ งงๆ ซะด้วยซ้ำ
แต่คนมันชอบน่ะ ก็ต้องซื้อเก็บเป็นธรรมดา

มีคำพูดเจ๋งๆ ของ V อีกอันนึงที่น่าเอามาประยุกต์ใช้แถวๆ นี้

“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”
ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาล รัฐบาลต่างหากที่ต้องกลัวประชาชน

นัฐพรไอศกรีม แพร่งภูธร

ไปกินร้านนี้มาหลายครั้งแล้ว
แต่ครั้งล่าสุดไปกันหลายคนแล้วก็เดินเล่นถ่ายรูปไปด้วย
เลยมีรูปหน้าตาไอศกรีมมาให้ดู ว่ามันน่ากินแค่ไหน

ไอศกรีมกะทิสดนัฐพร

คนที่เบื่อไอศกรีมดัดแปลงรสหวานนุ่มของบรรดาร้าน
แบรนด์หัวนอกราคาสูงทั้งหลาย น่าจะลองมาชิมของเจ้านี้ดู
ในรูปนี้คือไอติมกะทิสด ถ้วยละ 12 บาท กับขนมชิ้นละ 7 บาท

ไอติมเนื้อสวกๆ แต่ไม่บาดลิ้น เอาเข้าปากปุ๊บก็ละลายปั๊บ
ทำกันใหม่ๆ ทุกวันในร้าน ขายมาเป็นสิบปี
เดี๋ยวนี้มีรสช็อคโกแลต, กาแฟ หน้าร้อนก็มีรสทุเรียนให้ลอง
แต่ไปทีไรก็สั่งแค่ไอติมกะทิสดธรรมดาๆ นี่แหละ
โปะด้วยเม็ดบัว ถั่วแดง ข้าวโพด เผือก ถั่วลิสงคั่ว สดใหม่
ตบด้วยเค้กเนยสดชิ้นเล็กพอดีๆ กินแล้วชื่นใจ มีแรงเดินเที่ยวเล่นได้อีกหลายกิโล

ใครที่ไม่เคยไปก็แนะนำให้ตั้งต้นจากสี่แยกคอกวัว
ถ้าลงจากรถเมล์ก็ฝ่าดงล็อตเตอรี่นิดนึง เข้าถนนตะนาว
ฝั่งเดียวกับอนุสรณ์สถาน 16 ตุลาที่สร้างไว้ให้ร้างเล่นนั่นแหละ
เดินเข้าไปพอได้เหงื่อ จะผ่านศาลเจ้าพ่อเสือ, ซุ้มประตูวังหน้าแพร่งนรา,
เดินไปจนถึงซอยแพร่งภูธรทางขวามือ ก็เข้าไปเดินเลาะไปทางซ้ายของลานกลางแพร่ง
ก็เจอจะเจอร้านไอติมเล็กๆ ดูเก่าๆ ขลังๆ นั่นแหละ ไปลองชิมเลยครับ
อ้อ…ร้านปิดวันอาทิตย์นะครับ อย่าเผลอไปล่ะ

ไว้วันหลังจะแนะนำร้านอื่นอีกก็แล้วกัน…

Last.fm : the social music revolution

Last.fm

url กับโลโก้มันเท่ห์ดี
ไม่ค่อยได้ฟังวิทยุทางเนตเท่าไหร่ แต่อันนี้รู้สึกจะเป็นที่นิยมกันมาก
เข้าไปแล้วก็ชอบเลย เป็นชุมชนที่แต่ละคนไปสร้างหน้าเพจของตัวเองได้
หลังจากสมัครสมาชิก เข้าคอนเซป Web 2.0 ยอดฮิต
บอกความเป็นตัวคุณด้วยเพลงที่คุณ(ชอบ)ฟัง ^_^

มี client เล็กๆ ประมาณ 3 เม็กให้โหลดมาติดตั้ง แต่ยังมีเฉพาะของ Windows
แพลทฟอร์มอื่นก็รอกันอีกนิด

Last.fm

ยังไม่ค่อยได้เข้าไปเล่นอะไรเท่าไหร่ เนื่องจากยังไม่มีเวลา แต่เปิดตัว client ทิ้งไว้
เวลาเปิดเพลงจาก iTunes ตัวปลั๊กอินที่ติดมาจะไปหาข้อมูลเพลงที่กำลังเปิดมาให้ด้วย
คล้ายๆ dash board บน OSX (นี่ถ้าหาเนื้อเพลงมาให้ด้วยจะดีมากเลย)
ที่จริงบนไอจูนส์เองมันก็มีวิทยุมาให้อยู่แล้ว ก็นั่นแหละ บอกแล้วว่าไม่ค่อยได้ฟัง
แค่เพลงบนเครื่องก็ฟังไม่หวาดไม่ไหว แต่นานๆ ทีอยากเปลี่ยนบรรยากาศ
ฟังเพลงแบบเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าจะได้ยินเพลงอะไรต่อไป
แค่เลือก tag ตามหมวดหมู่ที่มันมีไว้ให้ (เพิ่มเองก็ได้) มันก็เพลินดีเหมือนกัน…

My OS(s), My Computer(s)

ในที่สุดก็ได้รับ CD Ubuntu 6.06 LTS (Dapper Drake)
หลังจากไปลงชื่อขอไว้ที่ ShipIt มาเกือบเดือน
งวดนี้แพ็กเกจหน้าตาดีกว่าของเดิมนิดหน่อย แล้วก็รวมมาเป็นแผ่นเดียวเลย
ไม่แยก Live CD กับ Install CD เหมือนเก่า

เวอร์ชั่นใหม่เค้าจงใจห้อยคำว่า LTS ต่อท้ายไว้ให้คนถาม
เพื่อจะได้ตอบว่ามันหมายถึง Long Term Support
มาร์ค ชัทเทิลเวิร์ธ คนทำลีนิกซ์ดิสโทรนี้คงอยากให้ใครๆ พูดถึงว่า
“คราวนี้พี่เค้าเอาจริง” ^_^

พอดีมีเครื่องว่างแล้ว ก็เลยลงซะ อะไรๆ ก็ดูง่ายไปซะหมดจริงๆ
ตอนนี้ก็เลยทำงานมันทั้ง 3 OS เลย (โต๊ะมันใหญ่ ต้องใช้พื้นที่ให้คุ้ม)

My Computers

ไม่มี KVM Switch ใช้ เลยต้องยอมให้เมาส์กับคีย์บอร์ดมันเกะกะแบบนี้ไปก่อน…