007 : Casino Royale Gala Premiere

กลับจากดู Casino Royale ที่ SFX ลาดพร้าวสดๆ ร้อนๆ
เคยเขียนถึงเมื่อคราว UIP เปิดตัว MI3 ที่เมเจอร์รัชโยธิน 7 โรง
คราวนี้ CTBV เปิดตัวเกทับหนักกว่า คือ 9 โรง เหมาหมดทั้ง SFX เลย

บรรยากาศคึกคักจนเดินแทบไม่ได้ บุกไปถึงหน้าเวทีได้ภาพมานิดหน่อย
ดารา นักข่าว มากันเยอะมาก เจอน้องชามตัวเป็นๆ น่ารักกว่าในจออีกแฮะ
บนเวทีมีใครบ้างไม่สนใจ ผมโฟกัสแต่น้องพลอย ไลลา คนเดียวก็ถือว่ามาคราวนี้คุ้มแล้ว

007พลอย
พลอยพลอย

เอาบัตรไปแลกไฮเนเก้นมาแก้คอแห้ง แล้วก็ยืนรอกว่าจะเปิดให้เข้าโรงก็สองทุ่มเศษๆ
เสียดายไม่ได้ลองชิม “ว้อดก้ามาตินี่ เขย่าแต่ไม่คน” สูตรของบอนด์ ที่ Smirnoff เค้ามาเปิดบู้ท

Ticket 007 Casino Royale007

ถึงเวลารีบเข้าโรงเพื่อจะได้ดูตัวอย่างใหม่ๆ ฝากมือถือกับกล้องข้างโรง
หอบป็อปคอร์นกับโค้กที่เค้าแจกให้ แต่ดันลืมเอาหลอดไปด้วย กระดกเอาละกัน
ผิดหวังนิดหน่อยที่เทรลเลอร์ตัวใหม่ล่าสุดของ Spider-Man 3 ยังไม่ได้ทำซับไตเติ้ล
แถมรู้สึกว่าสั้นกว่าฉบับที่โหลดมาดูเองด้วย เพราะมีฉากหายไปหลายฉาก
แต่ก็ดีกว่าไม่มี ได้ดูจอใหญ่ เสียงกระหึ่ม แจ่มกว่าบน iBook เป็นไหนๆ

ในส่วนของตัวหนัง ไม่อยากพูดถึงมาก ไปดูเอาเองก็แล้วกัน ขอเชียร์
ใครที่ยังลังเลอยู่ เพราะเห็นว่า Daniel Craig หน้าเห่ยจนรับไม่ได้
ก็ขอให้เบาใจ เพราะหลังจากผ่านฉากแอ็คชั่นใหญ่ช่วงแรกไป
คิดว่าคนดูคงยอมรับ และพร้อมจะลืม 007 มาดหล่อกรุ้มกริ่มของ Pierce Brosnan ได้ไม่ยาก
เพราะฉากแบบนั้นมันต้องถึก ล่ำแบบ Craig เท่านั้นมันถึงจะเหมาะ
ดูเหี้ยม ตาแข็ง โหด ลุยได้แบบไม่ต้องห่วงหล่อ

ฉากไล่ล่าในไซต์ก่อสร้าง แอบคิดถึง องค์บาก+B13+Yamakasi นิดหน่อย(หนังในเครือลุค เบซองล้วนๆ)
แต่ก็ยังสนุกมากอยู่ดี ฉากใหญ่ถัดมาก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่ากัน

ส่วนสาวบอนด์ Eva Green ก็สวยจนหลายคนถามหา
คงต้องมีการตามล่า Kingdom of Heaven มาดูกันใหม่
แต่จะให้ถึงใจคงต้อง The Dreamers ครับ จะได้เห็นถึงไส้กันไปเลย

ฉากไตเติ้ลไม่เป็นไปตามขนบหนังบอนด์ คือไม่มีรูป+เงาสาวๆ เซ็กซี่มาเต้นยั่วยวนแล้ว
แต่ก็ยังชอบอยู่ดี ภาพกราฟฟิคลวดลายแบบหน้าไพ่ เข้ากับธีมของหนังดี
คนทำไตเติ้ลนี่เก่งๆ กันทุกภาคเลย

ที่ไม่ค่อยชอบก็คงเป็นครึ่งหลังที่หนังดูแผ่วๆ ไป คงเพราะอัดแอ็คชั่นเจ๋งๆ ไว้ในครึ่งแรกเยอะ
บทของตัวละครหลักๆ ก็เดาได้ไม่ยากนัก ไคลแม็กซ์ไม่ค่อยเหมือนไคลแม็กซ์เพราะมันหลายกั๊กเหลือเกิน
และที่น่าเสียดายก็คือบทตัวร้าย Le Chiffre
อุตส่าห์ใช้บริการดาราดังจากฝั่งยุโรป พยายามทำบทให้ลึกด้วยบุคลิกแปลกๆ
(น้ำตาไหลเป็นเลือด, พ่นยาบ่อยๆ, เป็นนักคณิตศาสตร์ที่พิสูจน์ด้วยการเล่นโป๊กเกอร์)
กลับไม่ได้เป็นที่น่าจดจำอย่างผู้ร้ายของบอนด์สมัยก่อนเท่าไหร่
(แต่วิธีทรมานคนของเค้าก็ไม่ค่อยธรรมดานะ)

โดยรวมแล้ว แม้หนังจะยาวไปหน่อยสำหรับบางคน (144 นาที)
แต่ก็สนุก ที่เหมือนได้ดูบอนด์อีกแบบนึง ข้อด้อยก็ไม่มากหากเทียบกับข้อดี
ขอเพียงไม่อคติกับหน้าตา(หล่อๆ!?)ของ Craig เกินไปนัก
ก็น่าจะสนุกกับบอนด์ภาคนี้ได้สบายๆ ต้องลองดูกันเองครับ…

ขอบคุณ CTBV ประเทศไทย สำหรับบัตร และฝีมือถ่ายภาพของโน่ โดย Olympus E-300 ของผมเอง ^_^

Bangkok Night Trip by Chevy

วันเสาร์พอเสร็จจากถ่ายรูปงานซ้อมรับปริญญาโทของโน่ที่ไบเทค
กลับบ้านเย็นๆ เลยนึกถึงบล็อกเดินเล่นทองหล่อตอนดึกของคุณ bact’
กอรปกับเห็นพี่ป๊อกก็เขียนถึงด้วย เลยนึกครึ้มๆ อยากเอามั่ง

แต่เนื่องจากเดินบ่อยแล้ว แถมหมดแรงจากไบเทคด้วย
เพราะหลังงานกินกันพุงกางมาก เลยตัดสินใจว่า…เอารถไปดีกว่า
ตั้งแต่ซื้อ Chevrolet คันนี้มาก็ยังไม่ค่อยได้เอาไปไหนไกล
เลยถือเป็นการลองรถไปด้วยในตัว ออกเดินทางสองคนกับโน่
โดยเลือกไปตามเส้นทางที่เคยเดิน

ออกจากที่พัก ไปทางประดิพัทธ์แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางพระราม 6
วิ่งตรงไปผ่านแยกตึกชัย ถึงแยกศรีอยุธยา
แล้วเลี้ยวขวา ข้ามทางรถไฟตรงสะพานเสาวณีย์
แล้วเลี้ยวซ้ายลงสวรรคโลก ผ่านแยกยมราชเข้าหลานหลวง
เลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าถนนจักรพรรดิพงษ์ จนถึงวรจักร

พยายามหาที่จอดรถที่คิดว่าปลอดภัย วนจากเจริญกรุงมาถึงแยกเสือป่า
เลี้ยวเข้าไปข้างโรงพยาบาลกลาง เห็นมีตำรวจนั่งอยู่หลายคน
เลยไปขอจอดใกล้ๆ ออกปากฝากรถกับคุณตำรวจ
เพื่อความอุ่นใจ และได้คำตอบว่า “ไม่ชัวร์นะน้อง ล็อคดีๆ ล่ะ” อืม…

เดินเบียดคนในคลองถมซักพัก ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ไม่อยากอยู่นานด้วย กลัวรถหาย เลยกลับออกมากันมือเปล่า
ถึงที่จอดรถ ตำรวจยกขบวนกันหายไปหมดแล้ว
แต่รถยังอยู่ดี…โล่งอก

ออกจากคลองถม โดยย้อนขึ้นไปทางเจริญกรุง
ข้ามสะพานมอญ สวนรมมณีนาถ มีหนุ่มๆ ยืนเดินกันเพียบ
เคยพาสาวๆ แถวนี้ไปตื่นเต้นมาแล้ว
พอถึงถนนสนามไชย เลยแวะจอดถ่ายรูปวัดพระแก้ว
กับปืนใหญ่หน้ากลาโหมนิดหน่อย ตอนกลางคืนแสงสีมันสวยดี

ออกจากราชดำเนินใน-กลาง-นอก ตามลำดับ
มีเหตุระทึกนิดหน่อยตรงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
แต่ไม่เป็นอะไรมาก ได้แค่รอยบาดตื้นๆ ที่น่องซ้ายเป็นทางยาวให้พอแสบๆ
ส่วนรถก็แค่ไฟหน้ากระเด็นหลุดออกมา จับใส่เข้าไปอย่างเดิมก็เรียบร้อย

ไปจอดเก็บภาพอีกที ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ส่วนตัวผมว่าแถวนี้น่ากลัว
กลัวพวกขายของเซ่นไหว้พระรูปฯ นั่นแหละ พอมีรถจอดก็จะกรูกันเข้ามา
ดอกไม้ ธูปเทียน หมากพลูและซิการ์!!! บางทีจุดมาให้เลยอีกต่างหาก
ผมเห็นแล้วก็ได้แต่เอาใจช่วย เพราะคงต้องใช้ความกล้าอย่างยิ่งยวด
ที่จะปฏิเสธพี่คนขายหน้าโหด หนวดเฟิ้ม และมีรอยสักเต็มแขน
พร้อมเพื่อนร่วมอาชีพของพี่เค้าที่เป็นชายหนุ่มฉกรรจ์อีกอย่างน้อย 5 คน
ที่วิ่งมาพร้อมกันและล้อมรถไว้เป็นที่เรียบร้อย…
ใครอยากทำความเข้าใจต้องลองไปสัมผัสเอง
แนะนำให้อ่านหนังสือลัทธิพิธีเสด็จพ่อ ร.5 ของมติชนประกอบด้วย

หลุดจากลานพระบรมรูปฯ มาได้ ก็เลาะรั้วพระที่นั่งอนันตฯ
ไปตามถนนอู่ทองใน แล้วเลี้ยวขวาออกราชวิถี
ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ก็มุ่งพหลโยธินกลับบ้านตามเส้นทางปกติ
แวะกินข้าวที่ซอยอารีย์ สรุปแล้วใช้เวลาไปทั้งสิ้น 4 ชั่วโมงเศษ
ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร สนุกดีเหมือนกัน…

My Chevrolet

เส้นทางที่ใช้
route

ที่เหลือก็คลิกไปดูที่ flickr เองนะ

Messenger for Mac vs. Windows Live Messenger

ผมโหลด Windows Live Messenger (MSN 8.0) มาทิ้งไว้ราวสามเดือนได้
แต่ไม่ยอมลงเพราะกลัวว่ามันจะกินแรมไปเปล่าๆ แค่ IM จะเอาอะไรกันนักหนา
ที่ใช้อยู่ทุกวันก็เพียงพอแล้ว

แต่อาทิตย์ที่แล้ว ไมโครซอฟท์ก็ลุกมาปล่อย Messenger for Mac 6.0 หลังจากหยุดไปซะนาน
จนชาวแม็คที่รู้จักกันหลายคนหนีไปใช้ client ตัวอื่นอย่าง Adium, aMSN กันหมด
คราวนี้เลยลงของใหม่มันทั้งสองฝั่งเลย เปิดใช้ดูแล้วก็โอเคทั้งคู่

Mary Starman ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์สำหรับแม็คอินทอชของไมโครซอฟท์
ก็มาเขียนบล็อกว่าด้วยเรื่อง “อะไรที่ Messenger for Mac มีและ(ยัง)ไม่มี”
คนอ่านก็น่ารักครับ อะไรที่ยังไม่มีก็บอกว่ารอได้ แค่ทำให้ก็ดีใจแล้ว
ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบใช้ client ของไมโครซอฟท์เองมากกว่าจะใช้ตัวอื่น
เคยลองแล้วไม่ประทับใจเท่าไหร่ แบบว่าชอบใช้ของ original
จะเล่น MSN มันก็ต้องใช้ของเจ้าของตัวจริงสิ…

ทางฝั่งทีมพัฒนาบน Windows ก็ไม่น้อยหน้าครับ น่ารักเหมือนกัน
หลักฐานคือบล็อกที่เค้าเขียนแซวกันเองอันนี้

Messenger for Mac vs Windows Live Messenger

MM says:
     Hi, I am Messenger for Mac
WLM says:
     and, I am Windows Live Messenger (WLM)
     You look great, what has changed?
MM says:
     Thank you, I just got a makeover I am now 6.0!
WLM says:
     Congratulations! I am up to 8.0 by the way.
MM says:
     Well, I can chat with Yahoo! users
WLM says:
     Same
MM says:
     I can make custom emoticons
WLM says:
     Same
MM says:
     I can show what I am listening to in iTunes
WLM says:
     Same
MM says:
     I know English, Dutch, French, German, Italian, Japanese, Spanish and Swedish
WLM says:
     Same, Zelfde, Mêmes, Selben, Stessi, 同じ, Igaules, Samma, and more
MM says:
     I can do spell check
WLM says:
     Sa… Oh, hmmm… well who neeeds spel checque anywyas?

ที่มา :

The World’s First Female Space Tourist

อ่านเจอที่ บล็อกคุณ bact’ อีกแล้ว เห็นมันเข้ากับเรื่องที่เคยเขียนดี เลยไปค้นๆ มาเพิ่ม

Anousheh AnsariAnousheh Ansari

Anousheh Ansari เป็นเศรษฐีคนที่ 4 ของโลกที่จ่ายเงินทัวร์อวกาศ
เมื่อ 18 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยราคา 20 ล้านเหรียญ
(ราคาเดิมตั้งแต่มาร์ค ชัทเทิลเวิร์ธไปมาเลยแฮะ ไม่ยักขึ้นค่าตั๋วตามราคาน้ำมันเหมือนรถเมล์บ้านเรา)

Ansari (ไม่กล้าสะกดไทยเลย อ่านชื่อยังไม่ค่อยจะออก) เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-อิหร่าน
นอกจากจะเป็นลูกทัวร์อวกาศหญิงคนแรกของโลกแล้ว ยังเป็นมุสลิม
และชาวอิหร่านคนแรกที่ได้ทัวร์อวกาศด้วย

เธอเกิดเมื่อ 12 กันยายน 2509 การทัวร์ครั้งนี้ก็เลยคล้ายๆ เป็นของขวัญวันเกิด
ครบรอบ 40 ปีให้ตัวเองไปด้วยกลายๆ จากการทำงานหนักในฐานะที่
เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Telecom Technologies, Inc (TTI)
สุดท้ายขายหุ้นให้ Sonus Networks, Inc ไป (เส้นทางชีวิตคล้ายชัทเทิลเวิร์ธแฮะ)
แต่ตอนนี้กำลังมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ เพราะหลังจากหุ้นเปลี่ยนมือแล้วราคาตกฮวบฮาบ

ตอนนี้มีบล็อกที่เค้าเขียนจากบนอวกาศ (outer space จริงๆ ไม่ใช่ Windows Lives Space เหมือนสาวก MSN แถวนี้)
ลองไปอ่านกันได้ที่ Anousheh Ansari Space Blog

เป็นคนรวยก็ดีอย่างนี้แหละ จะว่าไปคนทำอาชีพแนวๆ นี้ก็คงรวยกันดีจัง คุ้นๆ บ้างมั้ยครับ…

ที่มา : วิกิพิเดีย