ดูนกวันเสาร์

พอจะมีเวลาว่างบ้าง เสาร์ที่ผ่านมาเลยได้ไปร่วมกิจกรรม Bird Walk
กับสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ที่สวนรถไฟใกล้บ้านแต่เช้าตรู่
ตื่นเช้าวันหยุดเข้าสวนรถไฟ นี่มันสดชื่นเย็นสบายจริงๆ

ครั้งนี้ก็จัดมาเป็นครั้งที่ 8 แล้ว กิจกรรมนี้ฟรี มีจัดขึ้นเดือนละครั้งทุกวันเสาร์แรกของเดือน
เข้าใจว่าจัดสลับกันไปทั้งสวนรถไฟและสวนหลวง ร.9 เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้า
ใครสนใจก็ไปลงชื่อที่หน้างานได้เลย

ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันเร็วๆ แล้วจะรีบออกไป ปรากฏว่าหากล้องสองตา (Binocular)
ของตัวเองไม่เจอ ไม่รู้เก็บไว้ไหน (มาเจอทีหลังว่าโน่ยืมไป)
เลยไปแต่ตัวเลย เบิร์ดไกด์ก็ไม่ได้หยิบไป แต่ที่กิจกรรมเค้ามีให้ยืมกล้องฟรี
แค่แลกบัตรประชาชนไว้ ดีจริงๆ

ก็ลงทะเบียน ยืมกล้อง ยืนรอแป๊บนึงให้พอรวบรวมคนได้เป็นกลุ่มย่อมๆ แล้วก็ออกเดิน
มีพี่ๆ นักดูนกมือโปรเป็นไกด์ให้ ทำให้ดูเพลินมาก ทุกทีดูเองคนเดียว หรือแค่ 2-3 คน
จำแนกนกไม่ค่อยออก กว่าจะเปิดเบิร์ดไกด์มือเป็นระวิง นกบินหนีไปแล้ว

วันนั้นส่วนมากก็เป็นนกเมืองที่พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ที่เจอก็มี
นกเอี้ยงสาลิกา นกเอี้ยงด่าง เอี้ยงหงอน กิ้งโครงคอดำ ขมิ้นน้อยธรรมดา
กาเหว่า นกจับแมลงสีน้ำตาล นกอีแพรดแถบอกดำ (แถบ-อก นะ ไม่ใช่ แถ-บอก)
แล้วก็นกจอมดุ ขาโหดอย่าง นกอีเสือสีน้ำตาล
ราชินีนกเมืองที่ได้ยินเสียงทุกวันอย่าง นกตีทอง
ก็ได้ส่องแบบใกล้ๆ กำลังเจาะโพรงไม้ทำรัง
แบบไม่สนใจคนเลย ปกติเห็นแต่ตามยอดไม้ ยอดเสาอากาศทีวี
ส่งเสียง ต๊ง ต๊ง ต๊ง เป็นจังหวะ เหมือนช่างทำทองที่ค่อยๆ ตีทองให้เป็นแผ่นทองคำเปลว
หน้าตาเหมือนนกโพระดกขนาดเล็ก ซึ่งมันก็คือนกวงศ์เดียวกันนั่นแหละ

ส่วนพวกนกน้ำ อย่าง ยางเปีย ยางกรอกพันธุ์จีน พันธุ์ชวานี่เห็นบ่อยแล้ว
สมัยตอนอยู่ชลบุรี ไปดูที่อ่างเก็บน้ำบางพระ กับแถวเขาเขียว มีเพียบ

ที่เป็นไฮไลท์ส่วนตัวจริงๆ ก็คือราชาแห่งการจับปลา นกกระเต็นน้อยธรรมดา
ที่ไม่นึกว่าในสวนรถไฟก็มีด้วย ส่วนมากจะนึกถึงแต่แถวบางปู
กับนอกเมืองไปเลย บริเวณที่เป็นแหล่งน้ำ เวลานั่งรถไปต่างจังหวัด
ก็จะคอยมองหาตามสายไฟฟ้าข้างทาง ดูไม่ยาก เพราะมองไกลๆ ก็เห็นแล้ว
ปากมันจะใหญ่ๆ ตัวป้อมๆ

ที่ว่าเป็นราชาของนักจับปลาก็เพราะชื่ออังกฤษของมัน
Common Kingfisher แต่ที่จริงๆ มัน common ก็เฉพาะแถวยุโรป
บ้านเราก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นได้ง่ายๆ อย่างชื่อมันเท่าไหร่หรอก

อีกตัวที่ได้เห็นชัดๆ ก็ นกสีชมพูสวน เพราะปกติมันจะตัวเล็ก มองไม่ค่อยเจอ
แถมสีกลมกลืนกับยอดไม้ร่มๆ อีก คราวนี้ได้เห็นตอนกำลังกินลูกตะขบเลย
คาบลูกตะขบกลมๆ คาปาก ค่อยๆ บีบให้น้ำตะขบไหลเข้าปากจนลูกตะขบแบน
น่ารักมากครับ

ส่วนตัวเชื่ออยู่เสมอว่าดูนกตอนมันกำลังหากิน เป็นเวลาที่สนุกที่สุด
นั่งเฝ้าดูได้เป็นชั่วโมงๆ อย่างตอนดูนกตะขาบทุ่ง มันจะเกาะอยู่บนยอดไม้
กลางทุ่ง จ้องมาที่พื้น มองหาแมลงหรือสัตว์เล็ก แล้วก็บินโฉบลงมาจับกิน
ก่อนจะกลับไปเกาะที่เดิมทำเป็นวงจรซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น
จังหวะที่บินโฉบกางปีกลงมานี่แหละ เราก็จะได้เห็นสีน้ำเงินที่ปลายปีกชัดเลย
หรือพวกนกน้ำตอนโฉบลงมาจับปลานี่ น่าตื่นเต้นมาก
วันนั้นก็ได้เห็นเจ้ากระเต็นน้อยธรรมดาโชว์ให้ดูรอบนึง

ประทับใจมากที่ได้ดูผ่านกล้องเทเลสโคปแบบชัดๆ เหมือนนกอยู่ตรงหน้า
ชัดแบบเห็นสีสดๆ ไรขนพริ้วๆ ปกติดูจากกล้องสองตาก็ว่าชัดแล้วนะ
พวกมือเซียนๆ นี่ตั้งสโคปแถมเล็งหานกเร็วมาก
วิ่งๆ แบกๆ ตามนกไปแป๊บเดียวก็เล็งตรงเป๊ะ เรียกพวกเราไปดูได้เลย
แถมด้วยคำอธิบายลักษณะนิสัย ความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ย่อย
ตัวผู้ ตัวเมีย ตัวโตเต็มวัย ไม่เต็มวัย สีสันช่วงฤดูผสมพันธุ์
ที่จะไม่เหมือนตอนปกติในบางชนิด เค้าใช้คำว่า “ชุดแต่งงาน” ชอบใจมาก
ซึ่งบางทีดูเองเราก็แยกไม่ออก โดยเฉพาะ “นกเด็ก” ที่ทำให้จำแนกผิดประจำ

คราวหน้าจัดที่สวนหลวง ร.9 คงไม่ตามไป อาจรอดูกับเค้าอีกทีที่สวนรถไฟนี่แหละ
สะดวกดี ปกติตอนเช้าไปปั่นจักรยานก็ไม่ค่อยมีเวลาดูหรอก ได้แต่ฟังเสียงเอา
วันไหนใครอยากสนใจมาเดินดูหรือจะปั่นด้วยกันก็บอกได้นะ แต่ต้องนัดเช้าๆ หน่อย
หรือติดตามข่าวสารการดูนกได้ที่เวบของสมาคมฯ ครับ

Strida: A Whole New Way To Move

ได้มาเป็นของขวัญวันเกิดเมื่ออาทิตย์ก่อน ชอบใจมาก เพราะเคยเล็งอยู่นาน
ก่อนนี้เคยได้ลองขี่ Strida ตัวเวอร์ชั่น 3 ของพี่ poommm พี่ชายร่างเล็กใจดี
หนึ่งในกูรูรถพับที่มีอยู่ไม่กี่คนในวงการ

Strida 5 (ภาพจาก www.SiamStrida.com
ตัวนี้เป็นเวอร์ชั่น 5 แล้ว เปิดตัวมาได้ปีกว่าๆ สิ่งที่ปรับปรุงขึ้นคือจานหน้าสวยกว่าเดิม
และเปลี่ยนจากเบรคดุมมาเป็นเคเบิ้ลดิสเบรค แล้วก็ราคาแพงขึ้นจากหมื่นกลางๆ มาเป็นหมื่นปลายๆ

บางคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตารถทรงนี้ทางทีวีมาบ้าง เพราะมีดารา นักร้อง พิธีกรหนุ่มใหญ่
พี่ฮาร์ท สุทธิพงษ์ ทัดพิทักษ์กุล ใช้งานเป็นประจำ จนเหมือนเป็นพรีเซนเตอร์ไปกลายๆ
เคยแบกรถพับคันเก่าขึ้นเรือข้ามฟากที่ท่าพระจันทร์ ยังได้ยินเสียงซุบซิบว่า “เหมือนของพี่ฮาร์ทไง”

จากการทดลองใช้งานปั่นไปทำงานแล้วสองวันเต็ม ไม่รวมปั่นเล่นแถวบ้าน
พบว่า ตอนปั่นแรกๆ เข้าใจทันทีว่าฉายา “สิงห์หน้าไว” เป็นยังไง
แต่พอปั่นไปซักพักก็จะปรับตัวได้ไปเอง พอคล่องแล้วก็จะกลายเป็นสนุก
เพราะช่วงเลี้ยวมันแคบ และขนาดที่เล็กทำให้เลื้อยได้คล่องแคล่วดี

อัตราทดแบบไม่มีเกียร์ของสไตรด้า จานหน้า 100 ฟัน จานหลัง 30 ฟัน
ขนาดล้อ 16 นิ้ว ทำให้ปั่นได้สบายๆ ตามนิยามของพี่ poommm ว่า
“ต้นลื่น กลางไหล ปลายไม่มี” ถ้าเป็นอัตราทดขนาดนี้ แต่ล้อขนาด 26 นิ้ว
เหมือน Specialized P3 ที่ใช้ประจำ ปั่นได้กิโลเดียวคงเข่าเสื่อม

วันแรกที่ปั่นไปทำงานก็เจอรับน้องเลย ฟุตบาทหน้า ปตท.สำนักงานใหญ่
โดนรื้อแผ่นปูนออกเหลือแต่พื้นทราย ขนาดหน้าล้อกว้างแค่ 1.5 นิ้วของสไตรด้าไปไม่รอด
ก็จูงตามระเบียบ ถ้าเป็น P3 ที่หน้าล้อกว้าง 2.4 นิ้ว ก็จะปั่นได้ฉลุย
ทำความเร็วได้ไม่เกิน 20 กม./ชม. อึดอัดใจเล็กน้อย เพราะอัดตามเจ้าโน่ไม่ทัน
เวลาเจอทางคับขันจะโดดข้าม หรือปีนฟุตบาทอย่างเคยก็ทำไมได้ ต้องไปแบบใจเย็น
และทนุถนอมรถหน่อย

ขากลับแจ็คพ็อตอีก เจอฝนนอกฤดูกระหน่ำ เลยได้ลองพับขึ้น BTS จากอารีย์มาลงหมอชิต
ฝนยังตกอยู่ แต่ซาลงบ้าง เลยได้ปั่นลุยฝนกลับบ้าน ต้องใช้สมาธิสูง คอยระวังหลุมที่มองไม่เห็น
เพราะมีน้ำขัง กับร่องถนนที่ลึกนิดเดียวก็อาจแฉลบล้มได้ง่าย ลื่นทีนึงนี่ใจหายแว่บเหมือนกัน
ขึ้นเนินก็ต้องระวังหงายหลัง เพราะเบาะนั่งเยื้องหลังเล็กน้อย และต้องปั่นแบบทิ้งน้ำหนักไปข้างหลัง
ให้แขนตึงหน่อย ไม่งั้นจะบังคับแฮนด์ไม่ถนัด เวลาขึ้นเนินก็ต้องโน้มตัวถ่วงน้ำหนักกันหน่อย

ระยะทางไปกลับรวม 14 กม.ก็ทำให้เมื่อยก้นได้เหมือนกัน เพราะโครงสร้างของรถ
ต้องนั่งปั่นแบบทิ้งตัวเต็มเบาะ จะเปลี่ยนท่า หรือลุกยืนโยกปั่นแบบปกติไม่ได้เลย
แค่ขยับตัวหรือปล่อยมือข้างเดียวรถก็เป๋แล้ว
และไม่มีระบบกันสะเทือน เจอทางขรุขระก็สะท้านไปทั้งตัว

ฟังดูเหมือนมีแต่ข้อเสีย แต่จริงๆ แล้วเป็นรถที่ปั่นสนุก นั่งหลังตรงเหยียดแขนสบาย
ไม่เหมือนเสือหมอบ(แบบพี่ป๊อก) หรือเสือภูเขาครอสคันทรี่แบบ Trek Fuel 70
ที่เวลาปั่นตัวจะโน้มมาข้างหน้าหน่อยๆ ตลอดเวลา
แต่ถ้าเทียบกับ P3 ก็คล่องตัวคนละแบบ คันนั้นมันสมบุกสมบันกว่าแต่หนักหน่อย
สไตรด้าเหมาะกับระยะทางไม่ไกลมาก เอาไปใช้่ร่วมกับขนส่งมวลชนได้ดี
โดยเฉพาะรถใต้ดิน ที่จักรยานธรรมดาเข้าไม่ได้ ต้องเป็นรถพับเท่านั้น
ระบบขับเคลื่อนเป็นสายพาน ไม่มีปัญหาโซ่ขาด โซ่ตก หรือน้ำมันโซ่เลอะขากางเกง
พับง่าย กางได้ไว น้ำหนักเบาแค่ 10 กก. (P3 หนัก 18 กก. แบกขึ้นบันไดหลังแอ่นเลย)
และที่สำคัญ เวลาใช้งานนี่มันเท่ห์แบบปฏิเสธไม่ได้จริงๆ

เอาล่ะ ถ้าใครสนใจ เจอกันก็มาลองปั่นได้ ถ้าจะซื้อหามาใช้งานก็ติดต่อได้ที่
Siam Strida ในกรุงเทพเค้ามีบริการส่งถึงบ้านเลย

อืม…วันนี้ออกแนวขายของแฮะ…

Android becomes C-3PO

หลังจากเศร้าใจกับ Android SDK ที่ไม่มีเวอร์ชั่นสำหรับ Mac เก่าๆ ของเรา
และระหว่างรอหาแลปท้อปเก่ามาลง linux ก็ลองเล่น SDK เวอร์ชั่นวินโดวส์ไปพลางๆ ก่อน

โหลดแล้วก็แค่ extract เสร็จ กำหนด path เรียบร้อย ก็ลอง emulator ดูก่อน
อันนี้เป็น default skin (จอเล็กสุด) มันจะมี skin ให้เลือกได้ 4 แบบ ตามนี้
เวลา run ด้วย command ก็เลือกใส่ option เอาเอง
Android Emulator

แล้วก็ลองตัวบราวเซอร์ที่มีให้ เช็ค user agent แล้วพบว่าเป็น WebKit
เปิดมามันจะเข้าหน้า google search ก่อน
ก็ลองเข้าเวบตัวเอง ปรากฏว่าภาษาไทยไม่แสดงผล
rerngrit.com on Android
ไปอ่านเจอของคุณ pit ที่ทดสอบไปก่อนหน้าแล้ว พร้อมมีวิธีแก้ (เจ้าตัวบอกว่าเถื่อนๆ ไปหน่อย)
และในเมื่อมันได้ผล ก็ลองตามซะเลย

นั่งงมทางเข้า console ของตัว emulator อยู่พักนึง ไม่สำเร็จ เพราะใช้ option -console แล้วมันก็ input อะไรไม่ได้
เลยต้องปรึกษาคุณ keng ได้ท่าไม้ตายมาคือ คำสั่ง adb shell ง่ายๆ ซะงั้น
เลยขอความอนุเคราะห์ไฟล์ฟอนต์ทั้งหลายที่ปรับปรุงภาษาไทยแล้วจากฟอนต์ Tahoma อีกที
ก็ใส่เข้าไปใน /system/fonts ของ emulator ด้วย คำสั่ง adb push ทีละไฟล์
ปลุกปล้ำอยู่พักใหญ่ก็สำเร็จ ตามธรรมเนียมก็ต้องเปิดเวบตัวเอง แจ๋วเลย
rerngrit.com on Android after fix

ทดสอบการตัดคำไทย
Android Thai Word-Break TestAndroid Thai Render Page Test
ลองบนวินโดวส์ พบว่าตัวบราวเซอร์ก็มี crash บ้างเหมือนกัน (เหมือน lew เจอ)
ตอนเปิด rendertest.html นี่ไปเลย แต่โดยรวมก็โอเค

ขอยืมสำนวน keng มาดัดแปลงหน่อยว่า ที่สุด ไอ้หุ่นกระป๋อง ก็กลายเป็น C-3PO ได้แล้วซะที… 😉

It’s time to Android

ช่วงที่ผ่านมาว่าจะพูดถึงเทคโนโลยีหลายอย่าง แค่ไม่กี่เดือนมีอะไรใหม่ๆ (สำหรับผม) โผล่มาเยอะมา
ทั้ง Adobe AIR, สงคราม social network (เลยเพิ่งจะได้รู้จัก orkut)
แอบไปเล่น facebook, ทำความรู้จักกับ pownce (เพราะคนทำน่ารัก)
กับลองเล่น pownce บนแพล็ตฟอร์ม AIR บนแม็คไปในคราวเดียวกันเลยด้วย
รวมทั้ง twitter

ล่าสุดข่าวลือเรื่อง gPhone ของกูเกิ้ล ที่สุดท้ายก็ออกมาเป็นโอเพ่นแพล็ตฟอร์ม Android
mk เขียนบทความสรุปไว้ใน blognone ได้ชัดเจนดีมาก จนอยากแนะนำให้ตามไปอ่าน
แถมเกิดพลังฮึกเหิม อยากลุยกะมันซักตั้ง

น่าสนุกจริงๆ เดี๋ยวโหลดมาทำแล้วจะมาเขียนถึงไว้อ่านเองกันลืม
ใครอยากจะร่วมฟอร์มทีมกันบ้าง เมล์มาโลด…

อัพเดท!!! ผมเสียใจมาก ตัว SDK สำหรับ Mac OS X ไม่ซัพพอร์ต PowerPC
เป็นอันว่า iBook G4 ผมอดเล่น T_T แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวหาเก็บเครื่องเก่าๆ มาลุยก่อนละกัน
เอ..หรือจะซื้อ MacBook ซะเลยดีมั้ยฟระ…