ร้านดังแห่งเมืองสิงห์บุรี จากที่ปั่นจักรยานทางไกลวันแรก
คืนแรกแวะนอนสิงห์บุรีเลยได้มีโอกาสไปกิน ตามคำแนะนำของ รปภ.ประจำโรงแรมที่พัก
มารู้ทีหลังว่าเป็นร้านดังจริงๆ มีคนพูดถึง แนะนำกันเยอะ
ปั่นจักรยานไปกินกัน ทำเอาลูกค้าในร้านแตกตื่นกันเล็กน้อย เห็นชี้ชวนลูกหลานให้ดูแก๊งจักรยานกันใหญ่
ทางร้านก็ใจดี ให้เอารถเข้าไปจอดในร้านได้เลย
มาดูเมนูกันก่อน
ราคาจัดว่าอยู่ในระดับพรีเมี่ยมเล็กน้อย
ร้านนี้ดังเรื่องปลา สิงห์บุรีก็เป็นเมืองปลา ก็พยายามกินปลาหลายๆ อย่าง
เสียดายไม่ได้กินปลาม้า อย่างที่ @roofimon ทวีตแนะนำมาตอนหลัง
จานแรก เบสิคก่อนด้วยทอดมันปลากราย
อร่อยครับ เหนียวนุ่มหนึบดีมาก รสชาติกำลังดี
ต่อด้วย แกงป่าปลาเนื้ออ่อน
นี่ก็อร่อย ปลาเนื้ออ่อนรสหวานนุ่มลิ้น ก้างแกะง่าย น้ำแกงรสไม่จัดเกินไป
กุ้งแม่น้ำทอดกระเทียม ราคาตามขนาด
จานนี้กินเสร็จถึงรู้ว่า 500 บาท O_o! มีกุ้งนับจากที่กินเจอหัวกุ้งแล้ว น่าจะ 2 ตัวเท่านั้น
แต่สับมาเป็นชิ้นเล็ก กระเทียมโรยปกปิดความน้อย อร่อยสมกับเป็นกุ้ง แต่ไม่ประทับใจ (แพงด้วย)
เม็ดมะม่วงผัดปลาช่อนกรอบ
จานนี้เด็ดสุด ชอบกันมาก กินกับข้าวก็เยี่ยม กินเป็นกับแกล้มก็แจ๋ว
เนื้อปลาช่อนทอดกรอบไม่กระด้าง เม็ดมะม่วงก็ให้แบบไม่ขี้เหนียว พริกแห้ง พริกหยวก ต้นหอม ซอยผัดมาด้วยกัน
ตักเข้าปากเคี้ยวพร้อมกันแล้วมันดีมาก
จานสุดท้าย ปลาไวเซเลียนึ่งซีอิ้ว
ปลาชื่อแปลก เนื้อคล้ายปลาหิมะ แต่ไม่มันเท่า กินคำแรกอร่อยจริงๆ
แต่พอกินไปซักพักรู้สึกว่ามันจืดไปนิด เหมือนซีอิ๊วยังไม่เข้าถึงเนื้อปลา
ถามคุณลุงรำพึง เจ้าของร้าน บอกว่าปลานี้สั่งมาจากอเมริกา เพราะตอนไปสอนทำอาหารที่นั่น
หาปลาม้าไม่ได้ เลยใช้ปลาไวเซเลียแทน ชื่อปลาเข้าใจว่าตั้งเองตามชื่อเมืองที่ลุงไปสอนทำอาหารนั่นแหละ
ลุงรำพึงตัวจริงยังแข็งแรงฟิตเปรี๊ยะ พูดจาฉะฉานสไตล์นักเลงโบราณมาก ลุงบอกว่าอายุ 60 แล้ว
อยู่สิงห์บุรีมา 38 ปี ตั้งแต่ปลดทหารเกณฑ์ เดิมเป็นคนแปดริ้ว จับพลัดจับผลูมาทำอาหารอร่อยเลยปักหลักอยู่ที่นี่เลย
ร้านแกก็เป็นร้านดังแบบปากต่อปาก พอยุคอินเตอร์เนทก็ยิ่งมีชื่อเสียงขจรขจาย มีคนเอาไปเขียนแนะนำเยอะ
แกเลยไม่เคยง้อพวกรายการโทรทัศน์ ที่จะมาขอถ่ายทำแล้วยังต้องจ่ายเงินให้รายการอีก
ลุงบอกว่าถ้ามาถ่ายแล้วกินฟรีก็เต็มใจเลย เลี้ยงให้โต๊ะนึงเลย แต่ถ้าจะมาถ่ายแล้วต้องจ่ายเงินให้สี่ห้าหมื่นด้วยนี่
ไม่ต้องมา ป้ายหน้าร้านแกเขียนเลยว่าเชลล์ไม่ต้องมาชิม แม่ช้อยไม่ต้องมารำ คุยกันเฮฮามาก
เลยขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย นานๆ จะได้คุยกับเจ้าของร้าน ทุกทีได้แต่กินๆ แล้วก็จ่ายตังค์
ต่อไปผ่านมาเมืองสิงห์ นอกจากจะนึกถึงแต่แม่ลาปลาเผา ไพบูลย์ไก่ย่างแล้วก็มีร้านรำพึงนี่แหละ ที่จะแวะกินอีก