วันครู

อยากเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ ไหนๆ ก็วันครูทั้งที
ขอไปขุดบทความเก่าที่เคยเขียนไว้ถึงครูที่ประทับใจมาเรียบเรียงใหม่ไว้ที่นี่ซะหน่อย

คนเรามีครูมากมายหลายคน แต่ต้องมีอย่างน้อยซักคนแหละที่เป็นครูในดวงใจเรา
ครูที่ผมประทับใจทุกวันนี้ ชื่อครูสมศักดิ์ครับ สอนผมตอน 9 ขวบ สมัยเรียน ป.3
(ตอนประถมจะเรียกว่า “ครู” แต่พอขึ้นมัธยมเป็นต้นไป
ทุกคนพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็น “อาจารย์” โดยไม่มีใครบอก แปลกดีเหมือนกัน)

โรงเรียนประถมต่างจังหวัดจะมีครูประจำชั้น ห้องละ 1 คน
และสอนมันทุกวิชานั่นแหละ ตลอดปีก็อยู่กับครูคนนี้คนเดียว
ครูผมคนนี้เอกคณิตศาสตร์ครับ แต่วิชาอื่นท่านก็สอนได้ดีนะครับ
ผมโตมาและนึกขอบคุณครูคนนี้ของผมอยู่ทุกวัน

วันแรกของการเปิดภาคเรียน
ครูก็ไปเอาลูกชายที่อยู่อีกห้องนึงมาเรียนห้องเดียวกันซะ
แล้วก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันจนทุกวันนี้

ครึ่งวันแรกของวันเปิดภาคเรียนนั้น ครูสั่งให้เราทั้งห้องนับ 1 ถึง 100 อยู่นั่นแหละ
นับจบแล้วก็ให้นับใหม่ ตั้งแต่แปดโมง จนใกล้ๆ สิบเอ็ดโมง
ก็มีคำสั่งสุดท้ายว่า นับ 1 ถึง 1000
แล้วครูก็ออกไปครับ (-_-“)

โรงเรียนผมเด็ก ป.1-ป.3 พักกินข้าวกลางวันสิบเอ็ดโมงครึ่ง
ส่วน ป.4-ป.6 จะไปตอนเที่ยงตรง
เราก็นับกันไป ผมจำแม่นเลย นับถึงเจ็ดร้อยกว่าๆ
รุ่นพี่ก็มาไล่ให้ไปกินข้าวครับ สมัยเด็กๆ นี่ซื่อ(บื้อ)กันจริงๆ
นี่กะว่าถ้ายังนับไม่ถึงพันก็คงไม่ต้องกินข้าวแน่ๆ

พอตอนบ่ายก็เริ่มสูตรคูณแม่ 2 ครับ
ห้ามท่องเป็นอาขยาน สองหนึ่งสอง สองสองสี่ เด็ดขาด
ให้ใช้วิธีบวกในใจ แล้วพูดเลขถัดไปออกมา
สอง สี่ หก แปด สิบ ไปถึง 200
สาม หก เก้า สิบสอง ถึง 300
สี่ แปด สิบสอง สิบหก ยี่สิบ … 400
แม่ 5 ข้ามไปเลย เพราะง่าย (-_-“)
หก สิบสอง สิบแปด ยี่สิบสี่ สามสิบ…600
เจ็ด สิบสี่ ยี่สิบเอ็ด ยี่สิบแปด สามสิบห้า…700


แม่ 10 ข้ามอีกแล้ว

ถึงแม่ 12 ตามมาตรฐานตารางท่องจำหลังปกสมุดแจกฟรีในสมัยนั้น

พอวันต่อๆ มา คล่องแล้วก็ ท่องแบบคูณ 10 อีกชุดนึง
แม่ 20, แม่ 30, แม่ 40,…,แม่ 120

จากนั้นก็ต่อด้วย กลอนพระอภัยมณี ตอนฤๅษีสอนสุดสาครอีกชุดนึง
(ท่อนที่ว่า “..แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์…” นั่นแหละ)
พวกมาตราชั่ง ตวง วัด ต่างๆ อีกชุดใหญ่
กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน เช้าก่อนเรียนวิชาอื่น และเย็นก่อนกลับบ้าน

ห้องผมเป็นกลุ่มเดียวในชั้นเดียวกันที่ได้เรียนสูตรคูณพิสดารนี้
ก็เท่ห์ดีครับ เก่งเลขกันถ้วนหน้าเลย
วิชาอื่นก็ไปวัดไปวาได้หมด

บางวันแกก็เขียนเลขเต็มกระดานดำ แล้วให้พวกเรานั่งกอดอก
บวกเลขทุกตัวในใจแล้วไปกระซิบคำตอบกับแก
ใครตอบถูกก็ไปนั่งเล่น ใครตอบผิดก็มาคิดใหม่

ช่วงปลายปีอากาศหนาวตามประสาจังหวัดทางเหนือของประเทศ
เราเป็นกลุ่มเดียวที่ได้สนุกกับการขนย้ายโต๊ะเก้าอี้จากชั้นสองของอาคาร
มาตั้งนั่งเรียนกันกลางสนามฟุตบอลรับวิตามินอีจากแสงแดด

ตอน ป.3 การไปโรงเรียนเลยเป็นเรื่องสนุกมากๆ ช่วงนึงเลยทีเดียว
ขนาดต้องไปเรียนชดเชยวันเสาร์ เราก็ไม่ยอมขาดเรียนกัน

ปัจจุบันท่านก็ไปเป็นพระอาจารย์อยู่วัดป่าที่อุดรธานีซะแล้ว
คงเพราะเบื่อระบบราชการเต็มที
ยังไม่มีโอกาสไปแวะกราบท่านเลย

คำสอนนึงที่ผมยังเชื่อและทำอยู่จนทุกวันนี้ของครูก็คือ
“ไม่ว่าจะเป็นใคร แม่ค้า ซาเล้ง คนกวาดถนน พนักงานขับรถ
ภารโรง สัปเหร่อ ฯลฯ ก็เป็นครูเราได้ทั้งนั้น ถ้ารู้จักเรียนรู้จากเค้า”

มีใครแถวนี้เรียนห้องเดียวกับผมบ้างมั้ยเนี่ย…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *