Rerng®IT switches to Mac

ในที่สุดก็ตัดสินใจถอย iBook G4 มาแล้วครับ
หลังจากจดๆ จ้องๆ มาเป็นปี แล้วมันก็ลดราคาลงมาพอให้เอื้อมถึงจนได้

My iBook

กลับมาเปิดเครื่องเล่นทำนู่นทำนี่ให้แบตหมดไปก่อนเลย 1 รอบ แล้วก็ชาร์จไฟซะ
เอาพวกโปรแกรมไม่จำเป็นทั้งหลายที่ติดมากับ OS X ออกซะบ้าง
ไม่รู้ลงอะไรมาให้ตั้งมากมาย กินฮาร์ดดิสไปตั้ง 20 GB
แล้วก็ลง Xcode เอาไว้เขียนโปรแกรมเล่น (ทำไมมันไม่ลงมาให้เลยนะ อยู่ในแผ่นติดตั้งแท้ๆ)

ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ให้มีโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ในเครื่องเลยแม้แต่ตัวเดียว (แต่ยังแอบมี MP3 ที่ rip ไว้ฟังเอง)…(-_-“)
เพราะยังไงก็ไม่ได้ใช้พวกตระกูล Adobe อยู่แล้ว ส่วนชุด Office ก็ใช้พวก Opensource อย่าง NeoOffice เอา
ตอนนี้ก็ทยอยดาวน์โหลดโปรแกรมที่จะใช้มาลงให้ครบๆ อันแรกก็ไปโหลด NetBeans ก่อนเลย
คราวนี้จะได้เขียน Tiger (Java 5.0) บน Tiger (OS X) ซะที ^_^

แอบบ่นมันนิดนึง เห็นตัวเล็กๆ หน้าจอ 12 นิ้วแค่นี้ แต่หนักตั้งสองโลแน่ะ
และที่น่าหนักใจอีกอย่างคือ มันเลอะง่ายชะมัดเลย
แถมต้องมานั่งคิดอีกว่าจะเอาอะไรมาใช้แทน MSN ดี

เลิก FWD Mail ข่าวลือกันเถอะ

วันนี้ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์เนื้อหาทันสมัยใหม่ล่าสุดมาครับ
เนื้อหาใจความก็คือบอกเล่า(สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็น)ความจริงเกี่ยวกับขนมปังร้านดังที่สยามสแควร์

สองสามเดือนมานี้ร้านนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียง เรื่องเด็กวัยรุ่นฮิตไปต่อแถวซื้อกินกันหลายสิบคน
รอกันทีเป็นครึ่งชั่วโมงถึงชั่วโมงนึง แถมมีกับดักทางการตลาดด้วยป้ายข้อความไม่ให้ซื้อเกิน 10 ชิ้น
(ตอนนี้เห็นว่าเป็นไม่ให้เกิน 25 ชิ้นแล้ว)

ที่ว่าเป็นกับดักทางการตลาด ก็สังเกตจากคนใกล้ตัว เพราะมันมักจะซื้อตามจำนวนที่เค้าจำกัดมาทุกที
คงเพราะอยากจะให้คุ้มสมกับที่รอคิวนานมั้ง เพราะเอาเข้าจริง คนปกติกินขนมปังได้ไม่น่าจะเกิน 2-3 ชิ้น
ที่เหลือก็ไล่แจกชาวบ้าน (ขนมปังเม็กซิกันบัน จะเก็บไว้กินวันหลังมันก็ไม่อร่อยเท่าตอนร้อนๆ จากเตาซะด้วย)

เมล์ที่ได้รับเนื้อหาก็บอกว่ามีประกาศจากทางสาธารณสุขในยุโรปว่าขนมปังที่ว่าเนี่ย
มันอันตรายกว่าขนมปังทั่วไปเกือบ 200 เท่า!!!
เพราะว่ามีทั้งไตรกลีเซอร์ไรด์ และคลอเรสเตอรอลสูง อุดมไปด้วยครีมและไขมัน
แถมมีผลทดสอบมาด้วยอีกนะว่า มีตัวอย่างคนที่กินอาทิตย์ละ 4-5 ชิ้น
แล้วมีน้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็ว

ล่าสุดในญี่ปุ่น ตอนปี 48 ก็เห่อกันน่าดู แต่พอมีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข
คนก็เลิกกิน ตบท้ายข้อความด้วยว่า ที่อื่นๆ เค้าเลิกกินกันหมดแล้ว
ในย่านเอเชียอาคเนย์เนี่ยมีแต่’ประเทศไทย’ นี่แหละ
ที่ยัง(เห่อ)นิยมกินกันอยู่ที่เดียว

อ่านแล้วก็น่ากลัวดีนะครับ อันตรายกว่าตั้ง 200 เท่า
แถมมีประกาศเตือนจากทางสาธารณสุขในยุโรปซะด้วย
แล้วสาธารณสุขประเทศไทยทำไมไม่รู้เรื่องเลย อันตรายขนาดนั้น
เราอย่าไปกินกันเลยดีกว่า…

เดี๋ยวนี้ไม่ชอบใจใคร ก็โจมตีกันง่ายๆ ด้วย fwd mail นี่แหละครับ
แถมลามไปเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง แล้วก็ไม่ได้ดับกันง่ายๆ
เมล์หลอกลวงแนวนี้บางฉบับ วนเวียนอยู่ในโลกอินเตอร์เนทเป็นปีๆ

ที่เห็นชัดๆ ก็พวกเมล์ชักชวนให้ไปบริจาคเลือด, เกล็ดเลือด, ไขกระดูก ฯลฯ
บางฉบับก็เป็นเรื่องจริงครับ แต่คนรับบริจาคเสียชีวิตไปเป็นปีแล้ว
เมล์ชวนไปบริจาคยังล่องลอยเป็นซอมบี้โปรเซสค้างอยู่ในเวิร์ลไวด์เว็บอยู่เลย

อย่างเมล์ร้านขนมปังที่ว่าเนี่ย ใครอยากรู้ก็ง่ายๆ เลยครับ
ไปค้นหาข่าวประกาศที่กูเกิ้ลดูซิว่าประเทศไหนประกาศยังไง
ไปดูซิว่าแฟรนไชส์ของชื่อร้านนี้มันไปถึงยุโรปกับญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่
ขนมปังมันทำจากแป้ง นม เนย แล้วคลอเรสเตอรอลมันจะไปอยู่ไหน
เม็กซิกันบันแบบนี้ มันเพิ่งเกิดมาบนโลกใบนี้พร้อมร้านนี้เป็นครั้งแรกหรืออย่างไร

ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเขียนถึงร้านขนมปัง ที่จริงก็ไม่ได้นิยม
แต่ก็ดีใจแทนเจ้าของที่ประสบความสำเร็จ

ถ้าจะเชียร์กันจริงๆ ผมเห็นเหตุการแบบนี้ที่ร้านพรชัย ตรงบางลำภูมาหลายปีแล้วครับ
ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ขนมปังปอนด์ ใส้ลูกเกด, หมูหยอง, แฮม, เนยสด ฯลฯ
ที่ยัดไส้มาจนทะลักอลังการ กินกันแทบไม่ไหว
ในราคา 30 บาท แถมมีคนซื้อไปขายต่อทั่วเมืองบวกกำไรอีก 5 บาท
พร้อมคำโฆษณาว่า ‘ขนมปังบางลำภู’
ร้านนั้นเค้าก็ต่อคิวกันอย่างกับแจกฟรีเหมือนกัน…

ใครอยากอ่านเมล์เต็มๆ คงต้องรอจากเพื่อนๆ กันเองนะครับ ผมลบทิ้งไปแล้ว
นี่ถ้าเค้าลงท้ายอีกซักนิดว่า “ช่วยส่งต่อๆ กันไปเพื่อเตือนสติเพื่อนร่วมชาติ”
หรือ “ถ้าไม่ส่งไปอีก 10 คน ชีวิตจะประสบความพินาศ” อะไรทำนองนั้น
ผมคงไม่กล้าลบทิ้งแหงๆ เลย…

ออสการ์ 2006 ร้อนๆ มาแล้ว

ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง ปีนี้หลวมตัวประกาศผลลูกโลกทองคำมาแล้วรอบนึง
ก็เลยถือเป็นหน้าที่ ที่จะต้องประกาศผลออสการ์ด้วยก็แล้วกันนะ

ผมเลือกเฉพาะรางวัลที่สำคัญๆ และค่อนข้างจะเป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไปหน่อยก็แล้วกัน
เรียงตามลำดับการประกาศในงานเลยครับ…

ออสการ์ตัวแรกในสาขาสมทบชายยอดเยี่ยมตกเป็นของ จอร์จ คลูนีย์ จาก Syriana
-เป็นตัวเต็งมาตั้งแต่ลูกโลกทองคำ ก็เป็นไปตามคาด
เจค กิลเลนฮาลจาก Brokeback ก็กินแห้วไป
เนื่องจากยังไม่ได้ดู Syriana เลย (ก็รอดูอยู่)
สาขานี้ตอนแรกผมเลยเชียร์ พอล จิอาแมตติจากซินเดอเรลล่าแมนมากกว่านิดนึง
แสดงว่าคลูนี่ย์เล่นดีจริงๆ

วิชวลเอฟเฟคท์ยอดเยี่ยม : King Kong คว้าไปครับ
-สมแล้วแหละ คองขนฟูนุ่มสลวยซะขนาดนั้น ลมพัดทีขนปลิวพรึ่บพรั่บ
น่าจับไปโฆษณาแชมพู

อนิเมชั่นยอดเยี่ยม ก็ตามโผ : Wallace & Gromit in The Curse of the Were-Rabbit
-เฉือนคู่แข่งอย่าง Howl’s Moving Castle ของมิยาซากิไปได้
ส่วน Corpse Bride ของทิม เบอร์ตัน ส่วนตัวผมว่าแพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้วแหละ
อนิเมชั่นดินน้ำมันจากอังกฤษเรื่องนี้เลยคว้ารางวัลไป
กู้วิกฤติป่วน สวนผักชุลมุน ออกเป็น DVD แล้วนะ หาดูกันได้

ออกแบบเสื้อผ้า : คอลลีน แอทวูด จาก Memoirs of a Geisha
-เสื้อผ้าเค้าสวยจริง อันนี้ต้องยอมรับ
วิลลี่ วองก้ากับพรรคพวกในโรงงานช็อคโกแลตเลยต้องแพ้ไปตามระเบียบ

แต่งหน้า (เมคอัพ) ยอดเยี่ยม : The Chronicles of Narnia
-แต่งกันเหนื่อยเลยเรื่องนี้ มีสัตว์ประหลาดๆ ให้แต่งเพียบ
งานนี้ Revenge of the Sith เลยต้องชวด

สมทบหญิงยอดเยี่ยม เรเชล ไวส์ จาก The Constant Gardener
-เพิ่งดูมาสดๆ ร้อนๆ เองเรื่องนี้ ในหนังท้องป่อง ตัวจริงก็ป่องมารับรางวัลเหมือนกัน
อันที่จริงสาขานี้มิเชล วิลเลี่ยมใน Brokeback ก็เล่นดีนะ
แต่คงได้เล่นน้อยไปหน่อยเลยแพ้ไปหวุดหวิด

สารคดียอดเยี่ยม : March of the Penquins
-อันนี้แทบไม่ต้องลุ้น ทุกวันนี้เปิด soundtrack ฟังยังเห็นภาพเพนกวินเดินกันเป็นขบวน

กำกับศิลป์ : Memoirs of a Geisha
-เกย์อิจฉาได้อีกแล้ว (ที่จริงแฮรี่ พอตเตอร์กับคิงคองที่เข้าชิงด้วยคงอิจฉากว่า)

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ : Brokeback Mountain
-เริ่มได้ตัวแรกแล้วครับ
จอห์น วิลเลี่ยมที่ได้ลูกโลกทองคำจากเกอิชาพลาดไป
คงเพราะเข้าชิงตัดคะแนนกันเองทั้งเกอิชากับมิวนิค

ผสมเสียง (Sound Mixing) ตกเป็นของ King Kong ครับ
-ฉากบนเกาะหัวกะโหลกนั่นทีมงานคงมันส์กันน่าดู หูอื้อตาลายกันไปข้างนึงแหละงานนี้

เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : It’s Hard Out Here For a Pimp จาก Hustel & Flow
-หลายคนคงแปลกใจที่ A Love That Will Never Grow Old จาก Brokeback Mountain
ไม่ได้แม้แต่เข้าชิง ข่าวลือที่ว่าออสการ์อาจไม่ให้รางวัลใหญ่ๆ กับหนังเกย์เรื่องนี้ดูเหมือนจะจริงซะแล้ว

ตัดต่อเสียง (Sound Editing) : King Kong ได้ไปอีกแล้ว
-คองกวาดรางวัลทางด้านเทคนิคไปเกือบหมดเลยแฮะปีนี้ ทั้งภาพและเสียงเลย

ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม : Tsotsi
-หนังออกเสียงยากจากอาฟริกาใต้เรื่องนี้ก็เพิ่งมาคว้ารางวัล
ในงานบางกอกฟิล์มเฟสติวัลเมื่อไม่กี่วันนี้ไปเหมือนกัน
บังเอิญจังที่ผมเพิ่งเขียนเกี่ยวกับมหาเศรษฐีกับลินุกซ์สายพันธุ์อาฟริกาใต้ไปเอง
ยังมีหนังจากอาฟริกาใต้อีกเหรอเนี่ย

ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : Crash
-เรื่องนี้เอากลับมาฉายใหม่ที่ลิโด้ครับ วันละรอบเดียวตอนสองทุ่ม
ใครยังไม่ได้ดูก็รีบหาโอกาสนะครับ
DVD ลิขสิทธิ์ก็มีแล้วเหมือนกัน เลือกเอาตามความสะดวกเลย

ดารานำชายยอดเยี่ยม ในที่สุด ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน ก็ได้ไปจาก Capote
-บทนักเขียนเกย์ชื่อดัง ทรูแมน คาโพที่ ก็ทำให้ซีมัวร์ ฮอฟแมนได้นำชายไปจนได้
หนังเข้าฉายบ้านเราแบบเงียบๆ ที่เฮ้าส์ รามา RCA โรงเดียว
สาขานี้ได้ดูแค่สองเรื่องคือ Walk The Line กับ Brokeback Mountain
ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ค่อยน่าเชียร์ทั้งคู่ เพราะไม่ได้ชอบมากเท่าไหร่ เลยไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

ผมเพิ่งซื้อหนังสือของนักเขียนคนนี้มา เดี๋ยวว่าจะเริ่มอ่านซะหน่อย
ใครอยากอ่านแนะนำครับ ฆาตกร แปลโดยโรจนา นาเจริญ จากเรื่อง In Cold Blood ของทรูแมน คาโพที่

ถ่ายภาพยอดเยี่ยม : Memoirs of a Geisha
-เรื่องนี้เข้าชิงรางวัลเล็กๆ แต่ก็ชนะเกือบทุกสาขาเลย Brokeback ก็อกหักอีกแล้ว
Batman Begins สุดรักของผมก็เข้าชิงสาขานี้ด้วยนะ เสียดายที่แพ้…

ดารานำหญิงยอดเยี่ยม รีส วิทเธอสปูน จาก Walk The Line
-ชนะรุ่นใหญ่อย่างจูดี้ เดนช์ กับเฟลิซิตี้ ฮัฟแมน ไปจนได้
จริงๆ อยากดู Pride & Prejudice ก่อน เผื่อจะเปลี่ยนใจไปเชียร์น้องเคียร่า
ไม่รู้จะได้ฉายบ้านเรารึเปล่า เห็นเงียบไปอีกแล้ว

บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม : Brokeback Mountain
-นิยายของแอน พรูซ์เรื่องนี้กวาดไปหลายรางวัลจริงๆ

บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม : Crash
-ถ้าดูหนังแล้วน่าจะเห็นด้วย…จริงๆ นะ

ผู้กำกับยอดเยี่ยม : อังลี (หลี่อัน) จาก Brokeback Mountain
-ได้ทั้ง Golden Globe และ Oscar เลยครับ

ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : Crash
-อย่างที่มีเสียงร่ำลือก่อนหน้านี้แล้วว่า Brokeback Mountain ไม่น่าได้ในสาขานี้
อาจเพราะกรรมการเป็นพวกหัวอนุรักษ์ ซึ่งถ้าเป็นจริง Crash ก็น่าจะได้แทน

ส่วนตัวผมเห็นด้วยที่ Crash ได้รางวัลนี้ เพราะหนังแสดงให้เห็นสังคมในมุมกว้าง
แล้วก็ให้ความรู้สึกหลากหลาย ตีแผ่ปัญหาเหยียดผิว/เชื้อชาติ รวมถึงผู้คนหลากหลายอาชีพ
ทุกตัวละครได้บทเรียน และบทสรุปที่กินใจ เหมือนได้ดู Love Actualy เวอร์ชั่นดราม่าเละซีเรียสกว่า

คราวนี้ที่ลิโด้คงเพิ่มรอบ คนคงเต็มโรง ดีวีดีคงขายดีขึ้นอีกเป็นกอง…

รางวัลออสการ์เกียรติยศ ปีนี้มอบให้แก่ โรเบิร์ต อัลท์แมน

สรุปรางวัลปีนี้
Brokeback Mountain ได้ไป 3 รางวัล จากที่เข้าชิง 8 รางวัล
Crash ได้ 3 รางวัล จากการเข้าชิง 6 รางวัล
Memoirs of a Geisha ได้ไป 3 รางวัล จากการเข้าชิง 6 รางวัล
King Kong ได้ 3 รางวัล จากการเข้าชิง 4 รางวัล
นอกนั้นได้คนละ 1 รางวัลหมดเลย

ที่น่าน้อยใจที่สุดประจำปีนี้ก็คงจะเป็นสปีลเบิร์กครับ หนังที่เค้ากำกับเข้าชิงทั้งคู่ คือ
Munich กับ War of the Wolrd เข้าชิง 5 กับ 3 รางวัลตามลำดับ แต่ก็กลับบ้านมือเปล่า

รวมทั้ง Cinderella Man กับ Pride & Prejudice ที่ชะตากรรมเดียวกัน คือเข้าชิงเยอะแต่ชวดหมด
ไม่นับพวกที่เข้าชิงแค่สาขาเดียวแล้วแพ้นะครับ
ส่วนพวกที่เข้าชิงสาขาเดียวแล้วชนะก็มี อย่างนกเพนกวิน กับอนิเมชั่นดินน้ำมันนั่นไง

งานนี้ข่าวลือเป็นจริงที่ว่า Brokeback Mountain จะพลาดรางวัลใหญ่ๆ เกือบหมด
ทั้งที่เข้าชิงมากที่สุด แต่ก็ยังดีที่ได้ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง

ก็ถือว่าเป็นปีที่สนุกครับ มีหนังให้ดูเยอะ รางวัลก็กระจายเยอะ
แต่ไม่รู้บรรยากาศงานออสการ์จริงๆ จะสนุกรึเปล่า
ผมคงต้องรอดูเทปที่ช่อง 7 จะเอามาฉายนู่นแหละครับ…

ที่มาOscar.com

โซนี่อีริคสันเดินหน้าใส่แบรนด์ Cyber-shot ลงมือถือ

หลังจากที่ประสบความสำเร็จไปแล้วกับการใส่แบรนด์ Walkman ลงใน w800i เมื่อปีกลาย
ปีนี้มือถือรุ่นใหม่ของโซนี่อีริคสันจะแปะแบรนด์ Cyber-shot เข้าไปอีกด้วย

โซนี่เป็นเจ้าตลาดกล้องดิจิทัลอันดับสองของโลกรองจาก Canon
จึงไม่แปลกที่ในที่สุดทั้งแบรนด์และเทคโนโลยีถ่ายภาพจะถูกจับยัดลงมือถือจนได้
ในไตรมาสสองของปีนี้มือถือรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัว 6 รุ่น จะมี 2 รุ่นที่เป็น Cyber-shot Phone
คือ K790 กับ K800 (หน้าตาเหมือนกันมากครับ ในรูปคือ K800 )

กล้องที่ติดมากับรุ่นนี้มีความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว
แฟลชที่สว่างกว่าเก่า และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 9 เฟรมต่อวินาที
(นี่มันเจ๋งกว่ากล้องทั้งตัวที่ผมใช้อยู่อีกนะเนี่ย)

ราคาที่จะวางขายอยู่ในราว 300 ยูโร คิดเป็นเงินไทยในอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันก็ไม่น่าจะเกินหมื่นห้า
แต่พอถึงเวลาวางขายจริงในบ้านเรา คิดว่าคงแตะที่เกือบๆ สองหมื่นอย่างเคย

ล่าสุด โนเกียยังเป็นเจ้าพ่อมือถือของโลกครับ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 35%
ตามมาด้วย โมโตโรลล่า ซัมซุง แอลจี แล้วก็โซนี่อีริคสัน
ปีนี้คาดว่าตลาดนี้ยังจะโตขึ้นไปได้อีก เฉพาะปีที่แล้วมือถือขายไปทั่วโลกกว่า 800 ล้านเครื่องครับ

คนแถวนี้บอกว่า ถึงเวลาออกมาจริงๆ งานนี้ต้องมีสอย…

ไม่รู้อีกหน่อยจะมี PlayStation Phone ด้วยมั้ยนะ…

ที่มาYahoo! News

Life in the Googleplex

มีคนส่งลิงค์มาให้ดู กูเกิ้ลเพล็กซ์คือสำนักงานใหญ่ของกูเกิ้ลครับ
นับถึงสิ้นปีที่แล้ว กูเกิ้ลมีพนักงานที่ทำงานเต็มเวลาทั่วโลกเกือบหกพันคน
เฉพาะที่สำนักงานใหญ่กูเกิ้ลเพล็กซ์นี่ก็มีราวพันคนเข้าไปแล้ว

ถ้าใครเคยคลิกซอกแซกเข้าไปอ่านใน About Google
ตรงหัวข้อ Corporate Info ที่เวบของกูเกิ้ลเองก็จะมีให้ดูบ้างเหมือนกัน

เห็นแล้วก็ได้แต่อึ้ง แล้วก็รันทดในชะตาชีวิตชาวเราในเมืองไทยจริงๆ
อ่านคำบรรยายภาพไปด้วยแล้วยิ่งได้อารมณ์
อาทิ อาหารฟรี 3 มื้อ, สระว่ายน้ำส่วนตัว, ร้านตัดผม, โต๊ะพูล, วอลเลย์บอลชายหาด!!!
ที่ทำงานใครมีบรรยากาศใกล้เคียงแบบนี้บ้างมั้ยเนี่ย

คลิกที่รูปเพื่อดูภาพทั้งหมดได้เลยครับ

ที่มาTime Magazine