เหตุเกิดเมื่อวานที่เมเจอร์รัชโยธิน ถ่ายมาด้วยกล้องมือถือ SE P1i ยังไม่มีกล้องใหม่ ฮืออ…T_T
Do anything at BarcampBangkok 2
ที่จริงมันคือการฉายซ้ำ Another success at House 2.0 อีกครั้งนั่นเอง
ปกติไม่ค่อยชอบแปะวีดีโอลงบล็อก แต่คราวนี้ต้องยกเว้นให้เค้าหน่อย
ขอบคุณ @kengggg ที่ช่วยบันทึกวิดีโอนี้ให้ด้วยครับ
มีอีกอันนึงโดย @bact เชิญคลิกไปชม
Firefox L10n Sprint (again)
ไม่มีอะไร แค่อยากเก็บไว้เป็นความภูมิใจ ชื่อผมอยู่ตรงกลางพอดี
นี่เป็นผลงานที่ทำกันไว้ครั้งแรกเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา
เปิดดูได้ตรงเมนู “เกี่ยวกับ Gran Paradiso” คลิกดูรายชื่อผู้จัดทำ แล้วมันก็จะเลื่อนแสดงรายชื่อไปเรื่อยๆ
อยู่สุดท้ายเลย เห็นแล้วมันชื่นใจ
อยากลองเล่นบ้างเหรอ…
ไปโหลดมาเลย Firefox 3.0.2(pre) โค้ดเนม GranParadiso
เลือกไฟล์ที่เป็น th อยู่ล่างๆ น่ะแหละ ใช้ os อะไรก็โหลดเอาให้ตรงกับของตัวเอง
ลองใช้แล้วเห็นคำแปลตรงไหนไม่ชอบใจก็แจ้งเข้ามาได้
รายละเอียดอ่านได้ที่ รายงาน sprint Firefox localization โค้งสุดท้ายในวันแรก
ถ้าอยากมาร่วมด้วยช่วยกันอย่างสนุกสนานแบบนี้ เรายังทำกันต่อถึงวันแม่ครับ ตามมาได้เลย
(คราวที่แล้วเล่น Wii คราวนี้เปลี่ยนเป็น PS3 กับ GuitarHero สุดเมามันส์!)
เสร็จแล้วตั้งใจว่าจะยกขบวนกันไปดู WALL-E ซะเลย จะได้ไม่เป็นบาป
เสียหมา
เพิ่งปั่นกลับมาสดๆ ร้อนๆ ตอนตีหนึ่งเศษ
เลี้ยวซ้ายมุมตึก เห็นเงาตะคุ่มๆ นอนอยู่แว๊บแรกตกใจนึกว่ามีไฮยีน่าที่ไหนหลุดมา
พอเข้าบ้านเลยคว้า E-300 ไปถ่ายไว้ได้ตัวนึง
เสียหมามั้ยครับ
มีเสือโคร่ง กับม้าลายอีกอย่างละตัว ตอนแรกเห็นนอนอยู่ใกล้ๆ กัน ท่าทางเซื่องซึมเหงาหงอย
คงจะเป็นเพราะง่วง ถามพี่รปภ.ประจำอพาร์ทเมนท์นั้นได้ความว่าศิลปินเป็นคนพักในอพาร์ทเมนท์นั้นนั่นเอง
พอพูดขาดคำ เจ้าตัวก็ขับรถเข้่ามาพอดี เจ้าสามตัวนี้ก็ระริกระรี้ไปกระดิกหางต้อนรับกันอย่างครึกครื้น
ถ่ายเจ้าเสือดาวนี่มาได้แค่ตัวเดียว อีกสองตัวมันหนีเตลิดไปก่อน คงจะกลัวแสงแฟลช
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก่อนออกจากบ้านจะลองไปถ่ายมาใหม่
หลังบ้านผมมีซาฟารีเวิลด์แล้วครับ ^_^
WALL-E
ในที่สุดก็ได้ดูซะที ฉายช้ากว่าเมืองนอกเป็นเดือนเลย
ทาง CTBV ไทยเก็บไว้เปิดตัววันแม่ 12 สิงหาคมนี้
วอลล์-อี เป็นหุ่นยนต์บีบอัดขยะที่เหลืออยู่ตัวเดียวในโลกยุคประมาณ 700 ปีข้างหน้า
ส่วนมนุษย์นั้นหนีออกจากโลกไปหมดแล้ว ปล่อยให้โลกร้าง
ราว 20 นาทีแรก เราจึงเห็นแต่วอลล์อีทำหน้าที่อยู่เพียงเปล่าเปลี่ยวลำพัง
มีเพียงเพื่อนเป็นแมลงสาปตัวนึง ราวกับจะล้อเลียนว่าในยุคที่ขยะล้นโลกแล้วก็มีแต่แมลงสาปเท่านั้นที่ทนอยู่ได้จริง
แล้ววันนึงก็มียานอวกาศมาปล่อยหุ่นยนต์สาวชื่อ EVE ไว้ วอลล์อีซึ่งเหงาอยู่ตัวเดียวมานาน นอกจากแมลงสาปแล้ว
ก็มีแต่รังนอนที่สะสมของต่างๆ ไว้ กับ iPod เครื่องนึงที่มีหนังเรื่อง Hello, Dolly! ไว้เปิดดู
วอลล์อีตกหลุมรักอีฟ แล้วพยายามทำให้เธอประทับใจด้วยวิธีการต่างๆ อย่างที่เราเห็นในหนังตัวอย่าง
อีฟที่ถูกปล่อยมาให้ทำภาระกิจลับบางอย่าง ก็กำลังจะถูกนำตัวไป เพราะมียานอวกาศลำเดิมกลับมารับ
วอลล์อีเลยติดตามเธอไปผจญภัยต่อในอวกาศ (เอาแค่ที่เห็นในตัวอย่างก็พอนะครับ ที่เหลือไปดูเอง)
หนังดีเลิศประเสริฐศรีสมคำร่ำลือจริง ถ้าคิดว่า Toy Story คือปฐมบทอันยอดเยี่ยมของ Pixar แล้ว
WALL-E คือมาสเตอร์พีซเลยก็ว่าได้ ผู้กำกับและเขียนบท แอนดรู สแตนตัน เคยกำกับ Finding Nemo
กับ A Bug’s Life มาแล้ว นับว่าเป็นลูกหม้อพิกซ่าที่ฝีมือดีมากคนนึง
ทีมงานเก่งมาก ทำให้หนังช่วงแรก ที่แทบจะไม่มีบทพูด ไม่ทำให้ผมเบื่อเลยแม้แต่น้อย
เค้าออกแบบลักษณะท่าทางหุ่นยนต์ (ทุกตัว) ให้ดูมีชีวิตชีวา และมีหัวใจ!
มีแม้กระทั่งแววตา ตอนเห็นหนังตัวอย่างครั้งแรก ภาพแววตาวอลล์อี ที่มองท้องฟ้าตอนกลางคืนแล้วมีดาวสะท้อนอยู่ในนั้น
มันดูน่าประทับใจ เหงาปนเศร้าดีเหลือเกิน รวมทั้งเพลงประกอบที่เข้ากันกับบรรยากาศและภาพเหงาๆ บนจอ
หนังจึงมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ดูเต็มไปหมด เป็นหนังที่คิดว่ายิ่งดูซ้ำยิ่งสนุก เพราะจะยิ่งจับรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้น
ดูได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่ก็ไม่เบาบางเกินไปเหมือนการ์ตูนสำหรับเด็กน้อยเลยซักนิด
แค่ดูการออกแบบโลก (ดาวโลก และจินตนาการเกี่ยวกับอนาคต) ในยุคนั้นก็จี๊ดแล้ว
ของแบบนี้ต้องดูในโรงให้เห็นภาพชัดๆ เต็มตาถึงจะคุ้มครับ เป็น 98 นาทีที่เพลิดเพลินเจริญใจ ครบรส
ผมนั่งแช่ดู end credit จนหยดสุดท้ายเลย แอบเห็นว่ามีทีมงาน software development เป็นกระบุง
ไม่น้อยหน้า graphic design เลยเชียว
ขอย้ำด้วยสำนวนของ @roofimon ที่เคยพูดตอนไปเยี่ยมบ้านให้ช่วยสอน Spring Framework ที่ว่า
“เขียน web app ด้วย java แล้วไม่ใช้ spring เป็นบาป”
ผมก็อยากจะบอกว่า
“ถ้าไม่ดู WALL-E ในโรงหนังให้ได้ซักครั้ง เป็นบาป” ครับ (เว่อร์ซะ ฮ่าๆๆ)
เต็มร้อยให้ล้านเลยเอ้า…
ปล. mk ก็เขียนถึง แต่มีสปอยล์นิดหน่อยนะ ผมเพิ่งจะย้อนกลับไปอ่านเพราะอยากดูหนังก่อน 🙂