หลังจากประสบความสำเร็จพอควรจากการปั่นกรุงเทพ-สุโขทัยคราวก่อน
คราวนี้เลยลองปั่นลงใต้บ้าง ครั้งนี้ไม่มีการเตรียมตัวอะไรกันเลย
แค่ตั้งใจว่าสิ้นเดือน 27-28 กุมภาจะปั่นไปหัวหิน ปั่นสบายๆ คงใช้เวลา 2 วัน
เพราะทริปที่แล้วก็ปั่นกันได้วันละร้อยกว่าโล ตอนแรกว่าจะไปกันทั้งบ้านสามคน
แต่ @ipats ติดธุระต้องไปงานแต่งงานเพื่อน แล้วจะตามไปทีหลัง
ตอนแรกเลยเหลือแค่ผมกับโน่ @hypermale
ก่อนพี่ก๊อง @jirakul จะมาสมทบเป็น 3 คนในตอนสายหลังจากอิดออดอยู่นาน 😛
เช้าวันเสาร์ออกเดินทางจากบ้านแต่เช้า ขึ้น BTS ไปลงปลายทางสถานีวงเวียนใหญ่
แล้วปั่นต่อไปจนทะลุถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายไปทางพระราม 2 แวะกินข้าวเช้าในปั๊มเชลล์พระรามสอง
รอพี่ก๊อง @jirakul อยู่ที่ปั๊มจนสิบโมง พี่เค้าก็ปั่นจากบ้านบางบัวทองมาสมทบ
ครบ 3 คนแล้วก็ออกลุย นี่เป็นทริป Kona Stinky ล้วนๆ เลย
รถทั้ง 3 คัน ได้แก่ Stinky ของโน่, Stinky Deluxe ของพี่ก๊อง แล้วก็ Stinky Air ของผม
น่าไปขอสปอนเซอร์เนอะ ว่ารถฟรีไรด์ก็ปั่นทางไกลได้ด้วย ซื้อใช้แล้วคุ้ม 😀
เส้นทางถนนพระรามสองรถเยอะพอควร ช่วงแรกยังสบายๆ ปั่นไปเรื่อยๆ
มีรถบรรทุกเยอะเหมือนกัน พักเดียวก็เข้าเขตสมุทรสาคร
บ่ายสองก็ถึงสมุทรสงคราม
วิวสองข้างทางเป็นทุ่งนา…เกลือ! สลับโรงงานอุตสาหกรรม แทบไม่มีต้นไม้เลย
ร้อนสุดๆ แถมไหล่ทางก็กว้าง กว้างจนกลายเป็นเลนให้รถยนต์นิสัยเสียใช้เป็นเลนแซงซ้าย
และรถมอเตอร์ไซค์ใช้เป็นเลนสวน จะมีมอเตอร์ไซค์ขับสวนมาแทบจะทุก 10 นาที
ต้องคอยระวัง มัวแต่ก้มหน้าก้มตาปั่นอาจซวยได้
ที่เลวร้ายที่สุดคือมีลมพัดต้านด้วยครับ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจออุปสรรคนี้
ตอนปั่นขึ้นเหนือไม่เคยเจอ ลมแรงมาก ทำให้ต้องออกแรงเหมือนปั่นขึ้นเนินตลอดเวลา
และที่โหดเข้าไปอีก คือเส้นทางสายใต้มีสะพานเยอะมากครับ
นึกสงสัยว่าสมัยก่อนที่พี่ @pphetra ปั่นไปภูเก็ตมันมีสะพานเยอะแบบนี้รึยัง
ทั้งสะพานข้ามคลอง สะพานข้ามทางรถไฟ แล้วก็สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน กับแม่น้ำแม่กลอง
พวกสะพานข้ามคลองไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ชัน
แต่สะพานข้ามทางรถไฟ กับสะพานข้ามแม่น้ำใหญ่ ผมต้องลงเข็นสถานเดียว
ข้างถนนจะมีแผงขายเกลือ ปลาทูแม่กลอง ขนมจาก มันร้อนแล้งจริงๆ
ได้ความรู้เพิ่มว่านาเกลือ นอกจากจะทำเกลือแล้ว ยังมีผลผลิตอีกสองอย่าง
คือ ดอกเกลือ เป็นเกลือที่จับตัวลอยขึ้นมาก่อน จะเม็ดละเอียด เค้าก็ช้อนมาขาย
ที่เหลือพอน้ำทะเลแห้งหมดทั้งแปลงนาก็จะเป็นเกลือเม็ด ส่วนพื้นนาก็จะเป็นปุ๋ยขี้แดด
บางร้านก็เรียกว่า หนังหมา เอามาขายได้อีก
ก็ก้มหน้าก้มตาปั่นไปเรือยๆ ครับ จุดหมายอีกไม่ไกล
จนถึงประมาณแถว กม.72 ราวห้าโมงเย็น แวะปั๊ม ปตท. หาของกินรองท้องนิดหน่อย
เติมน้ำด้วย คราวนี้ไม่ได้พกเป้น้ำมาเลย หาซื้อข้างทางอย่างเดียว
ออกจากปั๊มก็เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางเลียบป่าชายเลน ทางนี้จะสั้นกว่าเส้นทางหลักเล็กน้อย
แต่ถนนจะแคบ ดีตรงที่รถไม่เยอะ แล้วก็มีร่มเงาบ้าง แต่ก็ยังลมแรงมาก -*-
พอพระอาทิตย์ใกล้ตกมันสวยดีครับ แล้วก็เจอสะพานนรกตรงปากน้ำเพชร
เข็นเท่านั้น ไม่ต้องคิดมาก
พอฟ้ามืด ยังอยู่แค่ อ.บ้านแหลม เปิด GPS ดูกันพบว่าอำเภอนี้ไม่มีโรงแรมเลย
ต้องกัดฟันปั่นต่อไปอีกประมาณ 15 กม. เพื่อเข้าตัว อ.เมืองเพชรบุรี
แถวนี้ผู้คนใจดีครับ โบกมือทักทายตลอดทาง แต่หมาดุมาก ต้องออกแรงปั่นหนีอยู่เรื่อยๆ
ไม่กลัวหมากัด แต่กลัวมันวิ่งชนรถล้ม 😀
ช่วงนี้ได้เห็นคอนโดฯนกนางแอ่นด้วย แถวนี้เลี้ยงกันเยอะ
ตอนเห็นตึกใหญ่ๆ นึกว่าเป็นโรงแรมหรืออพาร์ทเมนท์ แต่พอเห็นใกล้ๆ ถึงรู้ว่าเป็นอาคารที่สร้าง
ให้นกนางแอ่นมาทำรัง มีการเปิดเสียงนกล่อให้นกเข้ามาอยู่ด้วยนะ
สองทุ่มก็มาถึงโรงแรมรอยัลไดมอน คืนแรกนอนที่นี่แหละ ป้าร้านค้าข้างทางที่แวะกินน้ำแนะนำมา
ว่าเป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของเมืองเพชร ก็ไปเช็คอิน คืนละ 900 บวกเตียงเสริมอีก 350 บาท
มีห้องเก็บของให้เอาจักรยานไปซุกได้ อาบน้ำกันแล้วก็ออกไปกินข้าวร้านพวงเพชรใกล้ๆ โรงแรม
ไปถึงครัวกำลังจะปิดพอดี เลยรีบสั่งแบบมึนๆ แต่อาหารก็อร่อยดีครับ
เช้าอีกวันออกเกือบเก้าโมง เหลืออีกไม่ถึงร้อยกิโลเมตร ตอนเช้าไม่มีลมต้าน ค่อยยังชั่วหน่อย
แต่พอใกล้ๆ เที่ยงก็มาอีกแล้ว จากที่เคยปั่นได้ 20 กม./ชม. เจอลมเข้าไปเหลือไม่ถึง 15 กม./ชม.
กะเอาจากหลักกิโลข้างทาง ช่วงนี้พักบ่อยหน่อย
ถึงชะอำประมาณเที่ยง แวะพักกินน้ำแล้วก็ลุยต่อ แล้วก็มียางรั่วกันจนได้
แต่เรื่องเล็กครับ แก้ไขแป๊บเดียวก็ปั่นต่อฉลุย
บ่ายสองครึ่งก็ถึงหัวหินเรียบร้อย เสียดายไม่ได้แวะถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คสำคัญๆ ทั้งหลายเลย
ผ่าน “เพลินวาน” ด้วย อยู่ฝั่งตรงข้าม คนเยอะมากอย่างกับมีของแจกฟรี – -”
เข้าเมืองหัวหินก็เลี้ยวเข้าซอยหัวหิน 55 ไปร้าน Cool Kitch’n ของเพื่อนนาย @hypermale
ก็เจอมิ้นต์ น้องในกลุ่มเมเจอร์ไบค์ กับ @ipats มารออยู่แล้ว ไม่รู้แซงมาตอนไหน คลาดกันไปนิดเดียว
ไม่งั้นคงได้ฝากกระเป๋าใส่รถ จะได้ปั่นสบายๆ มาด้วยซะหน่อย
เจอน้องโมทย์ นักปั่นที่หัวหินแวะมาทักเพราะเห็นจักรยานจอดอยู่หน้าร้าน นึกว่าเราจะมาดาวน์ฮิลกัน
ก็มานัดแนะว่าตอนเย็นๆ ค่ำๆ อาจไปปั่นเล่นด้วยกันหน่อย (แต่สุดท้ายก็ไม่มีแรงไป)
กินข้าวกินปลากันแล้วก็ปั่นไปร้านกาแฟนิดนึง
ก่อนจะปั่นต่อไปบ้านพักเพื่อนบนเขาหินเหล็กไฟ อีก 5 กม. ไม่ไกล แต่แอบมีเนินเขาชันอีกเป็นด่านสุดท้าย
บ้านอยู่ในหมู่บ้าน La Valee หรูเชียว ยามเข้มงวดดีด้วย ก็แลกบัตรเข้าไป
เข้าบ้านได้ก็อาบน้ำอาบท่า ออกมากินข้าวตอนเย็น แล้วก็เพื่อให้มาถึงหัวหินจริงๆ
ผมกับพี่ @jirakul เลยไปหาหมอนวดกัน 😀
น้องโมทย์ที่มาชวนให้ไปดาวน์ฮิลเล่นด้วยกันบนเขาเป็นเจ้าของเกสต์เฮ้าส์แล้วก็มีบริการนวดด้วย
เลยไปนอนนวดเท้ากันสบายใจ ชม.ละ 200 กลับถึงบ้านพักก็หลับเป็นตาย
วันรุ่งขึ้นบ่ายๆ ก็เอาจักรยานใส่รถยนต์กลับ ทิ้งรถไว้ที่นู่นสองสามคันที่ใส่มาไม่หมด
ไว้อาทิตย์ที่ 14-15 มี.ค. ค่อยกลับไปเอาตอนงานว่าวนานาชาติ ที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
ขากลับแวะซื้อปลาทูแม่กลองมาทอดกิน แล้วก็ซื้อดอกเกลือมาถุงนึง ดูซิว่าจะเค็มมากน้อยกว่าเกลือธรรมดาแค่ไหน
ถุงละ 20 บาทเอง ได้ประมาณ 2 กิโลกรัมมั้ง
ถึงบ้านทุ่มนึง เอาน้องแอร์ที่แยกร่างกลับมาประกอบเก็บ เป็นอันจบทริป
สรุปทริปนี้ปวดขาเล็กน้อยจากการปั่นต้านลม หน้าไหม้ไปเลยเหมือนกันเพราะแดดแรง
ตอนนี้จมูกกำลังลอกได้ที่ ต้นคอด้านหลังนี่ยังแสบไม่หาย หน้าผากก็ดำ
ข้อมือดำเป็นรอยต่อตรงปลายแขนกับถุงมือ เสื้อแขนยาวไม่ช่วยอะไรเลย T_T
รูปที่เหลืออยู่ใน Flickr เหมือนเดิม ทริปนี้ถ่ายวีดีโอมาด้วย
ขอบคุณ @tpagon ที่ให้ยืม Sony Bloggie มาลองเล่น ภาพชัดเชียวแหละ
แปะไว้อันนึงใหัฟังเสียงลมกัน ที่เหลือถ้าอยากเห็นก็ไปดูที่ Majorbike ต่อละกันนะครับ
ปล.ทริปปั่นรอบนี้ทำให้ต้องพลาดการไปเยือนปายและร่วมงานแต่งงาน @sweetener กับ @iMenn ได้แต่ร่วมส่งของขวัญวันแต่งไปกับ @inanza แทน ขอให้มีความสุขกันทั้งคู่นะครับ ^_^