Spider-Man 3: Enemy in the Reflection

ไม่ได้เขียนถึงหนังมานาน เคยตั้งใจจะเขียนทุกเรื่องที่ดู
แต่คิดแล้วคงไม่ไหว เดี๋ยวจะกลายเป็น blog หนังไปซะก่อน
เพราะดูหนังเกือบทุกเรื่อง บางวันดูสองสามเรื่องก็มี

พอดีคราวนี้ได้ไปดู Spider-Man 3 รอบกาล่าพรีเมียร์ที่ SFW (SF World Cinema)
เลยอยากเขียนถึงหลายๆ อย่าง
เริ่มจากกิจกรรมหน้างาน คราวนี้ไม่ยักกะคึกคักเหมือนตอน 007: Casino Royale
เรียกว่าแทบไม่มีกิจกรรมอะไรเกี่ยวกับหนังเลย แจกเครื่องดื่มกัน (คราวนี้ไม่มีเบียร์แต่มีไวน์)
เหมือนจะเป็นงานเปิดตัว SFW บวก celebrity party ซะมากกว่า
ก่อนเข้าโรงก็ต้องฝากมือถือ ซึ่งทำให้วุ่นวายตอนมาเอาคืนนี่แหละ

คราวนี้ CTBV ปิดโรง SFW ฉายเต็มสตรีม แถมมีรอบพิเศษที่สาขาอื่นๆ อีกเพียบ
พิธีกรก็ประกาศอยู่นั่นแหละว่าดูก่อนใครในโลก โม้ชัดๆ ก็ญี่ปุ่นเค้าดูกันไปตั้งแต่ 16 เมษา
Spidey3 Ticket

เข้าเรื่องดีกว่า ภาคนี้เปิดไตเติ้ลมาแบบกลัวคนดูจะลืมเรื่องราวในสองภาคก่อนหน้า
เลยเอามาให้ดูเป็นช้อตๆ ประกอบรายชื่อนักแสดง แต่ผมชอบไตเติ้ลของสองภาคก่อนมากกว่า
เนื้อเรื่องก็เป็นไปตามหนังตัวอย่าง ส่วนผมก็อ่านการ์ตูนมาเยอะแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเดากันมากมาย
ระทึกใจไปกับภาพบนจออย่างเดียวก็คุ้มแล้ว
spidey3transform1spidey3transform2
spidey3transform3spidey3transform4
“…แมงมุมลายตัวนั้น ฉันเห็นมันใส่ชุดสีดำ…”

ชอบหลายๆ ฉากในหนังแม้จะเปิดหนังตัวอย่างที่โหลดมาดูแล้วดูอีกเป็นสิบๆ รอบก็ยังชอบอยู่
แฮรี่ ออสบอร์นเท่ห์มาก เจมส์ ฟรังโก้ นี่หลังจากไปนำเดี่ยวใน Flyboys ก็ยิ่งกลับมาเล่นเป็นแฮรี่ได้เท่ห์เข้าไปอีก
นิวก็อบลินก็เก่งดีใช้ได้ ตอนเปิดห้องทำงานค่อยๆ ไล่ให้เห็นหน้ากากกับยานร่อนของรุ่นพ่อจนมาเป็นรุ่นลูก
ทำให้เข้าใจอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะ กระดานร่อนใหม่ (ก็อบลินไกลเดอร์) ของนิวก็อบลินมันดูคล่องตัวสมเป็นวัยรุ่น

อีกฉากนึงที่ชอบคือตอนที่แมรี่ เจนเดินเศร้าออกมาจากโรงละครแล้วค่อยๆ กลืนไปกับฝูงชนด้านนอก
ทำให้รู้สึกเลยว่าจาก somebody กลายเป็น nobody มันเป็นยังไง

ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด ลูกสาวผู้กำกับใหญ่รอน ฮาวเวิร์ด เคยเป็นนางเอกให้หนังพี่มาโนชมาสองเรื่อง
มาเล่นเป็นเกวน สเตซี่ ซึ่งตามการ์ตูนต้องเป็นรักแรกของปีเตอร์แต่ต้องมาตายด้วยน้ำมือของกรีนก็อบลิน
แต่ฉบับหนังเพิ่งจะโผล่หน้ามา สวยบาดใจมาก ดูเผินๆ ในหนังนึกว่าเอลิชา คัทเบิร์ตเวอร์ชั่นตัวสูง
มีเกร็ดตลกๆ อยู่อันนึง คือ ไบรซ์ซึ่งปกติผมแดงต้องย้อมผมเป็นสีบลอนด์เพื่อเล่นเป็นเกวน
ส่วนเคิร์สเท็น ดันส์นางเอกของเรื่อง ปกติผมบลอนด์ แต่ต้องย้อมผมสีแดงเพื่อเล่นเป็นเอ็มเจ อืม…

ข่าวลือที่ว่าอาจมีตัวละคร เควนติน เบ็ค ที่จะเป็นผู้ร้ายตัวนึงในการ์ตูนคือ Mysterio ก็เป็นอันว่าไม่จริง
ตัวอาจารย์ของปีเตอร์ที่มีแขนเดียวก็ยังเป็น ดร.เคิร์ท คอนเนอร์ ยังไม่ได้กลายเป็น The Lizard ในภาคนี้
บรูซ แคมป์เบลก็มารับเชิญเหมือนทุกภาค คราวนี้เป็นบริกรร้านอาหารฝรั่งเศส ฮาดี
สแตน ลีก็ขาดไม่ได้ ตามธรรมเนียมต้องมาโผล่หน้าประดับจอให้หนังที่สร้างจากการ์ตูนของมาร์เวล
อีตา บก. เจ. โจนาห์ เจมสันก็ทั้งเลวทั้งฮา เสียดายภาคนี้ลูกชายสุดหล่อแกหายไป
(ภาคที่แล้วเกือบได้แต่งกับนางเอก ในการ์ตูนกลายเป็น Man-Wolf หลังจากกลับจากดวงจันทร์)
มิสแบรนต์เลขาหน้าห้องภาคนี้น่ารักขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย (ไปเป็นนางเอกใน Slither มาแล้วนะ)
ป้าเมย์ยังเป็นสุดยอดเจ้าแม่คำคม ดูแล้วก้ำกึ่งมากว่าป้ารู้หรือไม่รู้กันแน่ว่าหลานเป็นฮีโร่ (ตอนนี้ในการ์ตูนรู้แล้ว)
ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เวอร์ชั่นด้านมืดก็กวนได้ใจ (เราสามารถแยกแยะได้จากทรงผม)
ตอนขึ้นเสียงกับ บก.เดลี่บูเกิ้ล กับตอนที่ไปอัดนิวก็อบลินแล้วด่าซ้ำนี่สะใจดีจริงๆ
ส่วนฉาก dark สุดๆ ในร้านอาหารก็ทำได้กระแทกใจแทบน้ำตาไหล (- -“)

ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือวีน่อม แต่ในหนังไม่เห็นมีใครจะตั้งชื่อให้เลยนะ
คือยังไม่ทันจะรู้เลยว่าเป็นตัวอะไร รู้แค่ว่าคล้ายสไปดี้แต่ไม่ใช่
เค้าทำออกมาเหมือนการ์ตูนดี (ขาดแค่ไม่แลบลิ้น)
แซนด์แมนก็เจ๋ง คงเพราะได้ดาราฝีมือดีด้วย (โธมัส เฮย์เด็น เชิร์ช อยากพิสูจน์ต้องดู Sideways)

เป็นอันว่าหนังสนุกสมกับที่รอ แอ็คชั่นเร้าใจ ตลกถูกจังหวะ (ในการ์ตูน กรีนก็อบลินชอบด่าสไปดี้ว่าชอบทำตลกไม่ถูกจังหวะ)
จบแบบเคลียร์เกือบทุกอย่าง แต่ความรู้สึกหลังหนังจบ ผมจำได้ว่าตอนดูภาคสองจบรู้สึกประทับใจมากกว่านี้นิดนึง
อ้อ..หนังยาวเหมือนกันนะครับ 140 นาทีแน่ะ

ขอบคุณ CTBV ประเทศไทยสำหรับบัตรฟรีด้วยนะครับ เดี๋ยวจะไปเสียเงินดูอีกซักรอบสองรอบ ^_^
ปลายเดือนขอดู Pirates of the Caribbean 3 อีกนะ