รวมฮิตปิดท้ายเดือนพฤศจิกายน

ไม่อยากมีเหตุการณ์แบบ “June(ไม่)Write” ให้เป็นที่น่าอับอายอีก
รีบหาอะไรมาเขียนๆ แปะๆ ไว้ซะหน่อย

เดือนเกิดปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงา อากาศหนาวนิดๆ ลอยกระทงไม่ได้ไปไหน
กลางเดือนก็มีปาร์ตี้วันเกิดที่บ้าน ^_^
birthdaybirthday
รูปโดย @ipats

ปลายเดือนได้ดูหนังสนุกมากอย่าง Ninja Assassin (เดี๋ยวจะไปดูอีก)
แล้วก็หนัง 3D เนื้อเรื่องน่ารัก อย่าง A Christmas Carol ที่อยากเชียร์ให้ไปดูทั้งครอบครัว

ศุกร์สุดท้ายของเดือนก็ได้ปั่นจักรยานกินของอร่อยๆ แล้วก็ถ่ายรูปกันสนุกๆ
night trip 27nov2009

ทริปรอบนี้มีวีดีโอมาด้วย ขอบคุณ @jirakul ที่ถ่ายด้วย iPhone แล้วตัดต่อมาให้ดูครับ
มีคนฝากชมว่าคนถ่ายเก่งมาก ปั่นไปถ่ายไป ได้บรรยากาศสุดๆ 🙂

รูปเต็มๆ อยู่ที่เมเจอร์ไบค์ โฆษณาเหมือนเดิม ใครอยากมาปั่นด้วยก็เชิญครับ มีรถให้ยืมนะ
รายงานทริปปั่นไปเยาวราช ฟาด(แกง)กะหรี่ 27 พ.ย. 52

เจ๊แดงอาหารทะเล

ไปกินมาสองสามอาทิตย์ก่อน ดองไว้นาน
ร้านดังใน fwd mail ที่มาจากกระทู้พันทิปอีกที อ่านผ่านตามาหลายหนก็เลยไปพิสูจน์กันซะหน่อย
วันเสาร์ก็ออกจากบ้านกัน ขับรถมุ่งหน้าสมุทรสงคราม กะว่าจะแวะกินแล้วค่อยไปเที่ยวตลาดอัมพวาตอนเย็น
ร้านหาไม่ยาก วิ่งไปตามถนนพระราม 2 ถึง กม.62 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางแยกไป มีป้ายบอกชัดเจน

ไปถึงก็สั่งกันเลย ไม่ต้องลีลา ปูเนื้อ ปูไข่ อย่างละตัว
เอารูปมาล่อใจไว้ก่อน จานนี้พันสองร้อยกว่าๆ จำเศษไม่ได้ ขายตามน้ำหนัก
ปูนึ่ง

ที่จริงปูมันจะมาช้า ระหว่างรอก็เอาน้ำพั้นช์มาเปิดกิน ขวดละห้าสิบบาท อร่อยใช้ได้
น้ำพั้นช์

น้ำจิ้มมาวางก่อนตามสเต็ป มีมาให้ 2 แบบ
น้ำจิ้มซีฟู้ด

ปลาทูตาเตี๊ยะ เมนูบังคับ ใครมาก็สั่ง เลยลองซะหน่อย เค้าบอกว่ามันก็คือปลาทูต้มเค็ม แต่น้ำราดมันเหนียวๆ
ปลาทูตาเตี๊ยะ
อร่อยจริง ซัดกันเกลี้ยง กระเทียมดองก็ไม่เหลือ สนนราคาหนึ่งร้อยยี่สิบบาทไทย

ปลากะพงทอดราดน้ำปลา ตัวใหญ่ดี สามร้อยกว่าบาท ราคาพอๆ กับกรุงเทพ แต่ปลาใหญ่กว่าสองเท่า
ปลากะพงทอดราดน้ำปลา

จัดปูไปอีกให้ชัดๆ
ปูนึ่งเน้นๆ

ข้าวผัดกุ้ง จานนี้สองร้อย ตักแบ่งกินกัน 4 คน อิ่มกำลังดี กุ้งตัวใหญ่ด้วย
ข้าวผัดกุ้งจานใหญ่

ผมตักแบ่งแบบนี้ได้สองรอบ
ข้าวผัดกุ้ง

หนุ่ม @ipats หมดสิทธิ์ต้องกินข้าวนางงาม (ข้าวสวย)
คนแพ้กุ้งต้องกินข้าวสวย

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เห็นใจคนกินปูกินกุ้งไม่ได้ จานนี้ก็สองร้อย
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

หอยหลอดผัดฉ่า มาถึงดอนหอยหลอดทั้งที ก็เลยลองสั่ง รสจัดดี แต่หอยเหนียวไปนิด ร้อยห้าสิบบาทต่อจาน
หอยหลอดผัดฉ่า

กินกันแทบไม่ไหว
ซากอารยธรรม

กินเสร็จเช็คบิลมาก็ยืนกันแทบไม่ไหว
ค่าเสียหาย

ราคาแพงพอควร อาหารก็คุณภาพดีสมราคา ตอนแรกยังคิดว่าจะแพงกว่านี้ด้วยซ้ำ
ถือว่าอิ่มอร่อยประทับใจ ถ้าผ่านไปก็อาจแวะกินอีก แต่ต้องไปหลายคนหน่อย จะได้สั่งกินได้หลายๆ อย่าง

ร้านเค้ามีเวบด้วยนะ แต่รูปกับข้อมูลไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่ ไม่รู้จ้างใครทำ
แดงอาหารทะเล (เจ๊แดง) เจ้าเก่า
เอาไว้เปิดดูว่าจะเดินทางไปยังไงก็พอ เปิดทุกวันเช้าถึงค่ำ มีโอกาสก็แวะไปลองกินกันดูครับ
อย่าปล่อยให้คนส่งเมลมาหลอกหลอนอยู่เลย

Bangkok Car Free Day 2009

ช่วงนี้เขียนถึงแต่งานวัน(ไม่)สำคัญ
ปีนี้เข้าร่วมเป็นปีที่ 3 หลังจากไม่ค่อยได้ปั่นมานานเพราะฝนตกเป็นประจำ

ตื่นกันแต่เช้า ชนิดที่ปกติวันทำงานยังไม่ตื่นเช้าขนาดนี้ 😛
เอารถออกมาเช็คความพร้อม เติมลม รอสมาชิกที่นัดกันไว้ครบ 4 หนุ่ม 1 สาว
ก็ออกจากบ้าน
Prepare to rideStarting a day

ตอนแรกตั้งใจจะไปสมทบกันที่จุดตั้งต้น BTS หมอชิต
แต่กว่าจะออกกันได้ก็เกือบ 8 โมง ถึงปากซอยใกล้แยกรัชโยธิน
เจอกับขบวนที่ทยอยปล่อยมาจากรถไฟฟ้าพอดี ก็ปั่นร่วมขบวนไปเลย มุ่งหน้า ม.เกษตร
Sunshine Morning

แดดแรงแต่เช้า โชคดีที่ไม่มีฝน เพราะกรุงเทพโดนพายุถล่มอย่างหนักแล้วตั้งแต่วันเสาร์
แป๊บเดียวก็ถึง ม.เกษตร ลงทะเบียน รับเสื้อยืดรณรงค์ประจำปี คราวนี้มาในสีส้ม
(ปีก่อนนู้นสีเหลือง ปีที่แล้วสีขาว)
Car Free Day 2009 T-Shirt
@ipats นายแบบประจำบ้าน

สายๆ ก็มีการรวมพลเข้าสนามฟุตบอล เรียงตัวกันเป็นแผนที่ประเทศไทยเหมือนเดิม
ปีนี้ผมไม่เข้าร่วม ตามเจตนารมย์ที่ประกาศไว้แล้วตั้งแต่ปีก่อน
Bangkok Car Free Day 2009
ภาพจาก https://www.bangkokcarfreeday.com/

จากนั้นก็โต๋เต๋ดูบูธแสดงสินค้า ทักทายเพื่อนนักปั่นอยู่ซํกพัก รอจน @hypermale สมาชิกร่วมบ้าน
ที่เข้าไปยืนเรียงแผนที่เสร็จออกมา ก็ปั่นกลับบ้านกันประมาณ 11 โมง แดดเปรี้ยงสะใจดีจริง
เลยไม่ได้อยู่ปั่นรณรงค์กับเค้าอีกรอบ ที่จะเริ่มตอนเที่ยงครึ่ง ปั่นออกจาก ม.เกษตรไปตามถนนวิภาวดีรังสิต
ย้อนเข้าไปในเมือง ทันเห็นขบวนจักรยานอีกที ตอนออกจากบ้านไปหาข้าวกิน

ช่วงนี้ชมรมเมเจอร์ไบค์ซบเซาเล็กน้อย เพราะเป็นหน้าฝน กิจกรรมคืนวันศุกร์เลยห่างหายไปบ้าง
จะกลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งก็ประมาณปลายปี หมดฝนนู่นแล้วนั่นแหละ
เหมือนเดิมครับ ใครสนใจมาสนุกด้วยกัน คืนวันศุกร์ไหนที่ไม่มีฝน มาปั่นด้วยกันได้ มีรถให้ยืม 😉

JoomlaDay Bangkok 2009

ช่วงนี้ด้วยหน้าที่การงานเลยต้องมาข้องแวะกับ Joomla จากที่สนใจอยู่ห่างๆ
เคยเล่นครั้งนึงตอนที่ Joomla แยกตัวออกมาจาก Mambo ใหม่ๆ
แต่ก็ไม่ได้ใช้งานจริงๆ จังๆ ชีวิตอยู่กับ Drupal แล้วก็ WordPress มากกว่า

จังหวะดีมากๆ ที่มีงาน Joomla Day จัดเสาร์อาทิตย์ 22-23 สิงหาคมนี้พอดี
เลยลงทะเบียนไปร่วมงานด้วยเป็นครั้งแรก งานมีปีละครั้ง ครั้งนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว
ผมพบว่างานที่จัดแบบต้องเสียเงินเข้าร่วมแบบนี้ดีมากๆ คนจัดตั้งใจทำ คนมาร่วมก็ตั้งใจมา
บรรยากาศงานรวมพลคนใช้จูมล่าก็เป็นกันเองไม่แพ้ Barcamp หรือ DrupalCamp เลย
รายละเอียดสำหรับคนที่พลาดไปดูได้ที่เว็บ JoomlaDay ครับ

วันเสาร์ตื่นแต่เช้าก็ออกเดินทางไป ม.ศรีปทุม บางเขน ใกล้ๆ บ้าน ตอนแรกว่าจะปั่นไป
แต่ไม่แน่ใจเรื่องที่จอดรถ เพราะคราวนี้ไม่ได้จัดตึกเดียวกับที่จัด Barcamp Bangkok เมื่อเดือนพฤษภาคม

คำเตือน: เอ็นทรีนี้จะยาวและค่อนข้างเทคนิคัลหน่อยนะครับ

วันแรก
ไปถึงก็ลงทะเบียน รับเสื้อยืดสกรีนสวยงามมา 1 ตัว (ทุกวันนี้ใส่แต่เสื้อยืดแจกฟรีแบบนี้ไปทำงานตลอด)
ห้องบัวหลวงแกรนด์รูมใหญ่กำลังดีมาก เวทีใหญ่ มีจอโปรเจ็คเตอร์ขนาดยักษ์ 3 จอ มองจากมุมไหนก็ชัด
joomla day bangkok 2009
(รูปนี้ถ่ายวันอาทิตย์นะครับ)
ผมเลยไปนั่งแถวที่ 2 จากข้างหน้า โชคดีที่ติดปลั๊กพ่วงไปด้วย จากประสบการณ์พบว่างานแบบนี้
มี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีก็จริง แต่ปลั๊กมักจะมีไม่ค่อยพอ
แต่เอาโน้ตบุ๊คไปก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าทวีตรายงานสดไปตามเรื่องตามราว

เก้าโมงเศษๆ ก็เริ่มงาน อธิการของ ม.ศรีปทุมก็มากล่าวเปิดงานพอเป็นพิธี
จากนั้น พี่บัง @joomlacorner ก็มาในหัวข้อ Overview Joomla!
พอให้เห็นภาพและเทรนด์ของ cms ยอดนิยมตัวนี้
ประมาณสิบโมง Samuel Moffatt มาพรีวิว Joomla 1.6 ให้ดูคร่าวๆ ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
เวอร์ชั่นล่าสุดของ Joomla ตอนนี้คือ 1.5.14
แล้วก็พักเบรคครับ ขนมอร่อยเชียวแหละ น้องๆ ทีมงานก็บริการกันเต็มที่ น่าชื่นชม
coffee break

ช่วงต่อมาก็ได้ฟังคุณ Dinh Viet Hung จาก JoomlArt
ผู้ให้บริการ Joomla Template ชื่อดังจากเวียตนาม (ที่ออฟฟิศเป็นสมาชิกอยู่ด้วย)
มาแนะนำ JA Template Framework กรอบการทำงานที่ตั้งใจให้เป็นเฟรมเวิร์คสำหรับการสร้างเทมเพลทต่อไป
มีแนวคิดที่น่าสนใจมากคือ multi-layout ที่ช่วยให้เราเตรียมเทมเพลทสำหรับ device ที่แตกต่างกันได้ง่ายขึ้น
และจะเปิดให้ดาวน์โหลดเฟรมเวิร์คตัวนี้ฟรีในวันที่ 15 กันยายนนี้ เพื่อให้นักสร้างเทมเพลทนำไปใช้ต่อไป

เซสชั่นที่บรรยายโดยชาวต่างชาติทั้งหมด จะได้รับการแปลเป็นไทยโดยคุณเม่น @iMenn และคุณโอ๋ @sexdrum
รวมทั้งช่วยแปลเป็นอังกฤษในช่วงที่มีการบรรยายไทยให้ชาวต่างชาติที่มาร่วมงานด้วย สุดยอดมากครับ
ผมยิ่งทึ่งกับสองหนุ่มนี้ขึ้นไปอีก เพราะเรื่องแบบนี้ทักษะภาษาอังกฤษอย่างเดียวมันไม่พอ เพราะไม่ใช่แค่แปล
เค้ายังช่วยอธิบายเพิ่มเติมและยกตัวอย่างเสริมให้เข้าใจง่ายๆ ขึ้นอีกด้วย ขอ “ซาบซึ้ง” อย่างแรง ซูฮกเลยครับ
อ่านบล็อกคุณโอ๋ได้ที่ อึ้ง ทึ่ง เสียว กับ JoomlaDay Bangkok 2009

ต่อมาก็เป็นเรื่อง e-commerce add-on ของ Joomla ผมว่านี่คือจุดแข็งของ cms ตัวนี้เลยในบ้านเรา
ทางทีมลายไทยก็ได้ทำ Joomla e-commerce edition ที่ผนวกเอา VirtueMart ไว้แล้ว
และทำ localization เป็นไทยให้เรียบร้อย สำหรับคนที่ต้องการทำร้านค้าออนไลน์ได้ดาวน์โหลดไปใช้

จบครึ่งวันแรก ตอนเที่ยงก็กินข้าวกัน ทางผู้จัดล็อคพวกเราให้ไม่ต้องไปไหน ด้วยการเตรียมทุกอย่างไว้ให้ในห้องทั้งหมด
มีข้าวกล่องอย่างดีให้เลย ห้องน้ำห้องท่าก็อยู่ในนั้นเรียบร้อย 😀
lunch box
ผมกินข้าวแล้วก็แว่บออกมาแป็บนึง พุ่งไปซื้อหูฟังไอโฟน in-ears ที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เพราะนัดคนขายไว้
กลับมาทันช่วงบ่ายพอดีเป็นหัวข้อจากทางไมโครซอฟท์!

ไมโครซอฟท์มางานของชุมชนโอเพ่นซอร์สและเป็นสปอนเซอร์ด้วยครับ เจ๋งจริงๆ งานนี้
แถมยังเอา Windows Server 2008 มาแจกให้เอาไปใช้ได้ฟรี 180 วัน
รวมทั้ง Visual Studio 2008 และ SQL Server 2008 รวมมาในกล่องเดียวกันเป็น DVD 5 แผ่น
โดยจะก่อนรับต้องโดนบังคับให้ไปถ่ายรูปคู่กับพริตตี้สาวสวย น้องเหมียว เป็นคนยื่นส่งให้ครับ (จำใจมาก) 😛
เดี๋ยวเค้าจะส่งรูปมาให้ทีหลังตามอีเมลที่ให้ไว้ และยังมีโปรโมชั่นสำหรับบริษัทที่เปิดมาไม่เกิน 3 ปี
สามารถติดต่อขอรับ Windows Server 2008 ไปใช้ได้ฟรี 3 ปีด้วย (เดี๋ยวต้องบอกเจ้านายให้ติดต่อไปซะหน่อย)

ส่วนเรื่องที่ทางไมโครซอฟท์มาเสนอก็คือ IIS 7.0 โปรแกรม Web Server ของทางไมโครซอฟท์
ซึ่งสามารถเอามาใช้กับ Joomla ได้เหมือนกัน (ปกติส่วนมากพวกเราจะรันแต่บน Apache ของ Linux)
แล้วก็เดโมความสามารถใหม่ของ IIS 7 คือ URL Rewrite ที่เหมือนกัน mod_rewrite ของ Apache นั่นเอง
ก็ทำให้ดูใช้งานง่ายตามประสาไมโครซอฟท์ครับ

ต่อมาก็พบกับ Samuel Moffatt อีกครั้ง เรื่อง Joomla Security ว่าเราควรทำอะไรบ้างหลังติดตั้งเพื่อความปลอดภัย
แนะนำให้ไปดูที่ Checklist ในเว็บของ Joomla ได้เลย

พักเบรคอีกที แล้วก็มาฟังคุณอ็อบ @Nattachai จากครีเอ้ มาแนะนำ Playground
บริการอัพโหลดภาพถ่ายขึ้นเว็บทันทีจากกล้องในมือถือพร้อมแสดงโลเกชั่นที่ถ่ายขึ้นมาบน Google Maps
ว่าถ่ายจากจุดไหนบนแผนที่ (ถ้าใครกลัวโดนตามตัวได้ก็ปิดการแสดงผลโลเกชั่นซะ)
ผมใช้งานอยู่แล้ว เลยไม่มีอะไรต้องทำความเข้าใจมาก ใครสนใจก็ไปสมัครใช้บริการกันดูครับ ฟรี!
(เสียแค่ค่าอัพโหลดทาง edge/gprs ตามอัตราของแต่ละโอเปอเรเตอร์)
สมัครแล้วก็ add มาได้ที่ rerngrit ครับ (ใช้ชื่อนี้ใน social network เกือบทุกเว็บ)

ช่วงสุดท้ายนึกไม่ออกแล้วแฮะ เดี๋ยวขอติดไว้ก่อน ใครจำได้ช่วงบอกทีครับ (ข้อเสียของการไม่เขียนบล็อกแต่เนิ่นๆ ก็เงี้ยแหละ)

จบงานวันแรก ถ่ายรูปหมู่ กลับบ้าน หัวโต สมองบวมครับ แต่ก็สนุกและได้ความรู้คุ้มค่าตลอดวัน

วันที่สอง
ไปถึงเกือบๆ สิบโมง ทันช่วงท้ายๆ ของคุณบอย @macroArt เรื่องทวิตเตอร์ (twitter อย่าเขียนว่า ทวิสเตอร์ เลยนะ)
ผมใช้งานมาสองปีแล้ว ไม่มีปัญหา มา follow กันได้ที่ @rerngrit

พอสิบโมงกว่าๆ ก็เป็นช่วงของ Mr.Azrul Rahim ว่าด้วยการทำ Enterprise web 2.0 ด้วย Joomla
ช่วงนี้ไม่ค่อยตั้งใจเท่าไหร่ มัวแต่โม้อยู่กับ @roofimon แล้วก็พักเบรค เยี่ยม เพิ่งมาถึงกำลังหิวพอดีเลย

แล้วก็รีบไปนั่งหน้าเวที ฟัง @roofimon คนในครอบครัว พาผู้ฟังทะลุมิติ มุดจักรวาล Joomla
ผ่านหลุมหนอน เข้าสู่จักรวาล Java รวยส์! ด้วยการใช้ Joomla เป็น front-end ให้กับสุดยอด
enterprise cms ของ Java ที่เก่งเรื่อง ECM อย่าง Alfresco สนุกสนานเฮฮาตามสไตล์ @roofimon ครับ
ซาบซึ้ง…
@roofimon on stage
หล่อสุดๆ ยืนพูดคนแรกของงาน ช่วงบ่ายเลยแทบไม่มีใครนั่งพูดกันอีกเลย โต๊ะเก้าอี้ที่เค้าเตรียมไว้เหงาทันที

ต่อมาก็เป็นเรื่องการรัน Joomla บน Virtualization โดยคุณสว่างพงษ์ หมวดเพชร
คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในวงการโอเพ่นซอร์ส ใครสนใจเรื่อง Xen ก็ไปตามพี่เค้าได้ที่ @itbakery
ช่วงนี้ทำให้ผมรู้ว่า Apache สามารถรองรับ concurrent user ได้ประมาณ 300 users
บนเซิร์ฟเวอร์ธรรมดาทั่วไป จากประสบการณ์ของพี่เค้านี่เอง

กินข้าวเที่ยงแล้วก็มาพบกับหนึ่งในทีมลายไทยอีกท่านนึง คุณศุภชัย แต่สกุล
มาอธิบายเรื่องการพัฒนา Template ให้รู้โครงสร้างกันคร่าวๆ ว่ามีขั้นตอน และเครื่องมืออะไรบ้าง
รวมทั้งความรู้ที่จำเป็น หลักๆ ก็คือ html, css, php นี่แหละ xml นิด graphic design หน่อย
เครื่องมือก็ตามถนัด ปกติเราก็ใช้ text editor ทั่วไป เน้นของฟรีเข้าไว้ เพราะโปรแกรมกราฟฟิคมันแพง 😉

ช่วงถัดมา ก็ฟังคุณ Toby Patterson มาอธิบายภาพรวมคร่าวๆ ของการพัฒนา Extension
ภาพที่เห็นแล้วเข้าใจง่ายมากคือ stack ของ Joomla ที่ด้านล่างประกอบด้วย Library, Joomla Framework และ Plug-in
ถัดขึ้นมาคือ Application และส่วนบนคือ Component, Module และ Template
ทำให้เห็นความแตกต่างของแต่ละชิ้นในแต่ละ stack และทักษะที่สำคัญของการจะพัฒนาแต่ละส่วน
ช่วงที่แนะนำเห็นว่า Toby เป็นหนึ่งในทีมผู้สอนของ WebCoursesBangkok ด้วย
หลังจบเป็นพักเบรคพอดี เลยเดินไปคุยด้วยซักนิดนึง เพราะ WebCoursesBangkok ใช้ออฟฟิศร่วมกันกับผม
แต่เรายังไม่เคยเจอกัน สรุปว่า เราติดใจเครื่องชงกาแฟของออฟฟิศด้วยกันทั้งคู่ 😀

หลังเบรคก็ต่อด้วยการสร้าง URL Friendly ของ Joomla โดย Mr.Azrul อีกครั้ง
เข้าใจว่าคล้ายกับ Beautiful URL ของ Drupal กับ WordPress ที่ทำได้ง่ายอยู่แล้ว
ช่วงนี้เลยแว๊บไปหาที่ชาร์จแบต แล้วก็เฉไฉไปคุยกับ @hohoteam กับ @molek ที่แวะมาพอดี

ช่วงสุดท้าย Samuel Moffatt อีกแล้ว! แกเก่งจริงๆ ครับ คราวนี้เป็นการแนะนำโปรเจ็คที่น่าสนใจมากๆ ของเหล่านักศึกษา
ในโครงการ Google Summer of Code ที่เกี่ยวข้องกับ Joomla
GSoC มีโครงการเจ๋งๆ เยอะมากครับ รวมทั้งโครงการที่เกี่ยวกับ opensource cms ตัวอื่นๆ ด้วย
แค่ตัวอย่างที่ยกมาเฉพาะที่โฟกัสบน Joomla ก็น่าทึ่งทั้งนั้น นึกถึงตัวเองสมัยเรียนทำโปรเจ็คยังไม่ได้ครึ่งของพวกนี้เลย
แอบสลดใจ – -” แต่คนทำงานแล้วอย่างเราก็มีส่วนร่วมได้ครับ ด้วยการเป็น mentor หรือที่ปรึกษาให้โครงการเหล่านี้ได้

จบงาน สมองบวมกว่าวันแรกเข้าไปอีก รีบกลับเลยไม่ได้อยู่ถ่ายรูปหมู่ เสียใจ ไม่ได้ของแจกเลยด้วย 😛
เดี๋ยวก็คงได้ดาวน์โหลดสไลด์ประกอบการบรรยายของงานนี้ทั้งหมดได้ที่เว็บ JoomlaDay

ประทับใจมากครับงานนี้ ชุมชน Joomla เข้มแข็งดีครับ คนเก่งๆ ก็เยอะ
ขอบคุณทีมงานผู้จัดทุกคนที่สละเวลามาทำเพื่อชุมชนและทำงานกันอย่างหนักตลอดสองวัน
ขอบคุณ พี่บัง @joomlacorner และทีมงานลายไทยที่พัฒนา Joomla มาตลอด
นึกเสียดายที่ไม่ได้รู้จักกันตั้งแต่ตอน CMS Showdown ที่ Barcamp
ตอนนั้นเห็นทีม Joomla แล้วกลัวครับ รัศมีเปล่่งปลั่งกันมาก
อายุลูกทีมของ Drupal กับ WordPress รวมกันยังอาจแพ้ได้ 😛
(ผมก็เดินป้วนเปี้ยนไปมา สุดท้ายก็ก็แว๊บไปตั้งวงเสวนากันนอกงาน)

ผมอุดหนุนหนังสือ “สร้างเว็บแบบอาชีพด้วย Joomla” มาเรียบร้อยแล้ว
ขอให้รวยส์ๆ มีความสุขกันทุกคนนะครับ 😀

Doomsday History

นี่ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ของ Doomsday ที่ฆ่า Superman เมื่อสิบกว่าปีก่อนครับ
ถ้าอยากอ่านแนวนั้นต้องไปที่ comics66 (แน่ะ โฆษณาซะเลย)

อันนี้เป็นบทสรุปเรื่องประวัติศาสตร์วันล้างโลกครับ
พอดีว่าช่วงนี้ได้รับ fwd mail บ่อยๆ เกี่ยวกับคำทำนายภัยพิบัติล้างโลกอยู่เป็นประจำ
ผมว่าเพราะหนังฮอลลีวู้ด 2012 กำลังจะเข้าฉายด้วยแหละ
เลยเกิดแรงโปรโมทและแรงกระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง อ่านสนุกดีครับ

doomsday (by Rerng®IT)
ประวัติศาสตร์วันโลกแตก
(รวบรวมโดย Terran )

ค.ศ.33-150 ชาวคริสต์ยุคแรกกลุ้มใจว่าโลกจะแตกสลาย
ค.ศ.992-1000 พระชาวยุโรปคิดว่า โลกจะวินาศในปี ค.ศ.1000 ผู้คนจึงหวาดกลัวกันใหญ่
ค.ศ.1001 ปรากฏว่าโลกยังไม่แตก พระชาวฝรั่งเศสจึงบอกว่า ภัยพิบัติจะเลื่อนไปเกิดปี ค.ศ.1033
ค.ศ.1033 โลกยังหมุนต่อไป
ค.ศ.1186 (พ.ศ.1729) เกิดดาวเคราะห์เรียงตัวกัน ชาวยุโรปนึกว่าโลกจะล่มสลาย
ค.ศ.1346-1418 (พ.ศ.1889-1961) เกิดโรคกาฬโรคขึ้น ประชากร 1 ใน 3 ของยุโรปตาย และคร่าชีวิตประชากรครึ่งประเทศในอังกฤษ แต่มนุษย์โลกก็เพิ่มจํานวนกลับคืนมาตามเดิม
ค.ศ.1501 (พ.ศ.2044) คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบรหัสไบเบิ้ล เรียกมันว่า”ไบเบิ้ลโค้ด” ได้ผลทํานายออกมาว่า โลกจะแตกใน ปีค.ศ.1656 (พ.ศ.2199)
ค.ศ.1656 (พ.ศ.2199) คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ทํานายผิด
ค.ศ. 1844 วิลเลียม มิลเลอร์ บอกสาวก50,000 คนว่า โลกจะพินาศในปีนี้แล้ว แต่ก็ผิดหวัง
ค.ศ.1848 วิลเลียมบอกว่า มันจะเลื่อนมาเกิดปีนี้ต่างหาก .. แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วิลเลียมจึงบอกว่า มันเลื่อนไปเกิดปีหน้า
ค.ศ.1849 วิลเลียมไม่ได้รับความเชื่อถืออีกต่อไป
ค.ศ.1910 ดาวหางฮัลเล่ห์ปรากฏ ผู้คนต่างหวาดกลัวว่าจะเกิดวันสิ้นโลก
ค.ศ.1925 แม่ชี โรเบิร์ต ไรท์ บอกว่า พระเจ้ามาบอกว่า โลกจะพินาศในปีนี้ เผอิญปีนั้น เกิดโรคระบาด แผ่นดินไหวถี่ผิดปกติ ภาวะบ้านเมืองอึมครึม คนเลยเชื่อใหญ่ บางคนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร บางคนขายบ้าน ขายที่นา พอถึงวันที่แม่ชีว่าจะเกิด แม่ชีไรท์พาลูกศิษย์หลบเข้าป่าจําศีลภาวนา แต่แล้วก็ผิดพลาดอีก…
ค.ศ.1945 ชาร์ล ลอง นักฟิสิกส์อังกฤษ บอกว่า โลกจะพินาศ ซึ่งในระยะเดียวกันนั้น บังเอิญเกิดดาวหางบ่อยๆ เกิดสุริยคราสและจันทราคราส บ่อยๆ
น้ำท่วมเป็นประจํา แผ่นดินไหวถี่ผิดปกติ จึงเป็นเหตุผลที่ชาวโลกควรเชื่อ แต่ก็ผิดพลาดหนักเข้าไปอีก
ค.ศ.1975 กลุ่มชาวคริสต์ออกมาทํานายว่าปีนี้โลกจะพินาศ หลังจากทายผิดติดต่อกันมาแล้ว 10 ปี
ค.ศ.1996 ไมเคิล ดรอสนินท์และเอลิยา ริปป์ ตีความไบเบิ้ลโค้ด แล้วบอกว่า จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3ในวันที่ 25 กรกฏาคม …แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไมเคิลและริปป์จึงบอกว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 และภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นแน่ แต่เลื่อนไปในปี ค.ศ.1999
ค.ศ.1999 นอสตราดามุส บอกว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3… นอกจากนอสตราดามุสแล้ว ยังมีไมเคิลกับริปป์ที่หน้าแหกเป็นเพื่อนอีกตั้งหาก
ค.ศ.2000 ดาวเคราะห์เรียงตัวกันในวันที่ 5 พฤษภาคม ผู้คนบนโลกเชื่อว่าโลกจะแตก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ค.ศ.2003 กลุ่มที่เชื่อเซคาริยาห์อ้างว่าดาวนิบิรุจะโคจรมาใกล้โลก ก่อเกิดภัยพิบัติ ที่ญี่ปุ่นมีกลุ่มคนพากันเข้าป่า เตรียมเสบียง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กันยายน 2005 – สิงหาคม 2006 กลุ่มไบเบิ้ลโค้ดเชื่อว่า จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามที่คัมภีร์ทํานายว่าจะเกิดใน สิงหาคม 2006 แต่ก็ผิดอีก…

อ้างอิงบางส่วนจาก หนังสือ The World and I

ปล. สักวันมันคงจริงสมใจอยากแหละนะ ผมเอาใจช่วย
จากคุณ : Mr.Terran – [ 1 ก.ค. 52 13:48:41 ]

คัดลอกมาจากกระทู้ X8033862 ที่โต๊ะหว้ากอ เว็บพันทิปครับ

ขอชวนกันให้ตามไปอ่านต้นฉบับที่กระทู้ตามลิงก์ข้างบน สนุกมาก 😀

update: 29 Dec.2011 กระทู้ต้นเรื่องตามลิงก์สลายตัวไปแล้วครับ เสียดายมาก T^T