Star Wars: Panel to Panel

วันนี้นึกครึ้มๆ ตอนเที่ยงเลยแว่บไปเดินพารากอนแก้เบื่อ
แล้วก็ตามเคย แวะที่คิโนะคุนิยะ ดูโซนหนังสือคอมพ์ กับการ์ตูนฝรั่งเป็นหลัก
ตั้งใจจะไปหา Watchmen ของ Alan Moore กับ
Mythology ของ Alex Ross ปรากฏว่าของหมด
เลยได้เล่มนี้มาแทน (อีกเล่มนึงไว้จะเขียนถึงวันหลัง)

มันช่างบังเอิญซะจริงๆ ที่เมื่อคืนวันอาทิตย์เพิ่งนอนฟัง podcast ของสองคู่หู dualGeek เรื่องนี้พอดี
เป็นคลิปที่เค้าคุยกันไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทำให้รู้ว่าเป็นพวกบ้า Darth Maul เหมือนกัน
ยังมีอีกคลิปนึงของเดือนตุลาคม เป็นเรื่อง superhero เลยได้รู้ว่าชอบ Batman เหมือนกันอีกซะด้วย
ถ้ามาอ่านเจอก็อย่าโกรธที่ผมโหลดมาแต่ยังฟังไม่ครบนะครับ
จะพยายามฟังให้ได้คืนละคลิป พอดีเลือกฟังแต่เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ Mac ก่อน 😉

เล่มนี้เป็นงานรวม art work ทั้งหลาย จากฉบับหนังสือการ์ตูนของซีรี่ส์นี้
ตั้งแต่ปี 1991 ของ Dark Horse Comic รวมทั้งโปสเตอร์ ปกนิยาย สารพัด ฯลฯ
รูปก็สวยคุ้มค่า มีหลายฉากที่เราไม่ได้เห็นในหนัง เพราะเป็นเหตุการณ์ช่วง Clone Wars
รวมทั้งนิยาย (The New Jedi Order), เกมส์ (Knights of the Old Republic) ที่เป็น side story
ซึ่งผมก็ไม่เคยอ่านหรือเล่น ได้แต่ดูสรุปกับอ่านตาม forum ที่เค้าคุยกัน
คิดว่าแค่ได้ดูซีรี่ส์ Clone Wars ครบทุกตอนก็นอนตายตาหลับแล้ว

เห็นด้วยกับปกหลังที่เค้าบอกว่า “a picture is worth a thousand words…”
เลยยอมควักกระเป๋าให้ ราคาแปะไว้ 695 บาท แต่คิโนะฯ เค้าใจดีลดให้อีก 20%
ว่ากันว่าคนที่ไม่ใช่แฟนตัวยงของ Stars Wars ยังควรมีไว้ในฐานะที่เป็นงานรวม art work ชั้นดีเล่มนึง
เลยเอามาเข้าชุดกับ The Visual Dictionary of Star Wars ที่มีอยู่ซะเลย… ^_^

เราอยู่ในสังคมแบบหมาแย่งก้อนเนื้อกัน

อ่านบทความนี้ของคุณวินทร์ เลียววาริณแล้วสะท้อนใจดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะชอบส่งไปให้ชาวบ้านอ่าน แต่รู้สึกว่าหลายๆ คน
หรือบางครั้งเราเองก็ขี้เกียจอ่านอะไรยาวๆ ในชีวิตที่รีบเร่งแบบนี้

ตัวอย่างที่เค้ายกมาอย่างเรื่องแซงคิวเข้ารถไฟฟ้า เข้าลิฟท์แล้วรีบปิดประตู เราก็เห็นจนชินตา
แต่เป็นเพราะความชินตา หรือเพราะเราชอบประณีประณอม ทำให้พยายามคิดว่า เค้าอาจมีความจำเป็นจริงๆ จึงต้องทำแบบนั้น
หรือเป็นเพราะเราไม่กล้าแสดงออกที่จะรักษาสิทธิ ที่ร้ายที่สุดก็คือทำให้เราคิดว่า เค้าทำได้ เราก็ทำบ้าง
เราก็ใกล้จะกลายเป็นหมาแย่งก้อนเนื้อกันชัดเจนเข้าไปทุกที ตอนนี้ผมชักไม่มั่นใจแล้วว่า ถ้าเกิดเราเป็นหมาตัวนั้นในนิทานอีสป
จะอดใจไม่กระโจนไปแย่งเนื้อเงาของหมาในน้ำที่มองเห็นได้หรือเปล่า

ไม่แปลกใจที่ New Year’s Resolution ของคนรู้จักและคนอื่นๆ (ที่มีลิงก์เชื่อมไปในนั้น)
จะมีเรื่องใจเย็น ตั้งสติ หรือไม่ก็สมาธิอยู่ด้วยเสมอ (ถึงแม้อันดับหนึ่งจะยังเป็นเรื่องลดน้ำหนักก็ตาม ฮา…)

มีอีกคนนึงที่เมื่อก่อนก็จะตามอ่านประจำ ถ้าคนที่สนิทกันก็จะรู้ว่าผมยกคุณประภาส ชลศรานนท์เป็นไอดอลคนนึง
เดี๋ยวนี้ดูเหมือนเค้าจะเลิกเขียนคอลัมน์คุยกับประภาสลงในมติชนวันอาทิตย์แล้ว แถมที่มติชนก็ไม่ให้อ่านย้อนหลังแบบออนไลน์แล้วด้วย
แต่ก็ยังมีรวมเล่มกับเวิร์คพอยน์สำนักพิมพ์อยู่

กลับมาที่คุณวินทร์ ผมรู้จักเค้าครั้งแรกใน ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ตอนซื้อไม่ได้คิดอะไร เห็นว่าเป็นซีไรต์ก็หยิบๆ มาก่อนเลย
จำได้ว่าเป็นช่วงเพิ่งเริ่มทำงาน ยังไม่มีทีวี เลยอ่านแต่หนังสือทุกวัน ชอบเพราะอ่านแล้วรู้สึกเหมือนดูหนังยังไงยังงั้น
อีกสองปีต่อมา สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ก็ได้ซีไรต์อีก คุณวินทร์เลยขึ้นแท่นได้ซีไรต์สองครั้งเท่ากับคุณชาติ กอบจิตติ
หลายคนก็คงเป็นเหมือนกันคือถ้าประทับใจงานของนักเขียนคนไหน ก็ต้องไปหางานอื่นๆ ของเค้ามาลองอ่านด้วย
สุดท้ายก็กลายเป็นลูกค้าที่ดีไปในที่สุด ยิ่งตอนนี้ เสี่ยวนักสืบ พุ่มรัก พานสิงห์ ก็กลับมาโลดแล่นต่อในมติชนสุดสัปดาห์แล้วด้วย
แฟนๆ ก็เตรียมตัวติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลันตามสำนวน บก.เค้าได้เลย

ดีใจที่แม้จะเข้าไปดูเฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง แล้วก็ได้เจอบทความดีๆ แบบนี้เรื่อยๆ
ถือว่าเป็นการแนะนำแหล่งบทความดีๆ อีกอันนึงไปก็แล้วกันนะ บางทีไปเจอใน fwd mail ส่วนใหญ่ที่ไร้จรรยาบรรณ
แบบไม่ยอมบอกแหล่งที่มา จะได้รู้ว่าต้นฉบับอยู่ที่นี่

Apple iPhone

เอาแล้วครับ ในที่สุดข่าวลือก็เป็นจริงจนได้
แถมจะเป็นข่าวใหญ่กว่าตอน เปิดตัว intel Mac ซะอีก
Steve Jobs เพิ่งโชว์ในงาน MacWorld Expo 2007 สดๆ นี่เอง
(อย่างนึงในชีวิตนี้ที่อยากทำก็คือได้ยืน present กับโปรเจ็คเตอร์ใหญ่ๆ ในงานแบบนี้นี่แหละ)

Apple iPhone

รายละเอียดอื่นเอาไว้ก่อน เพราะส่วนใหญ่อยากรู้ราคากับกำหนดการวางตลาดใช่มั้ย…จัดให้
ความจุ 4GB ราคา 499U$ ความจุ 8GB ราคา 599U$
จะเริ่มขาย ในอเมริกากลางปีนี้ ยุโรปไตรมาสสุดท้าย และเอเชีย…ปีหน้า!!!

ที่เหลือไปอ่านแบบละเอียดได้ที่ Blognone ครับ
น่าตื่นเต้นชะมัดเลยแฮะ

Update! เพิ่งได้รับเมล์จากแอปเปิ้ลเมื่อกี๊ หลังเขียนบล็อกเสร็จแค่ 10 นาที
ปรากฏว่่ามี Apple TV ด้วย จะบ้าตาย
แต่มันไม่ใช่โทรทัศน์นะ เป็นแค่ top-box ที่เอาไปเสียบต่อกับโทรทัศน์อีกที ราคา 299U$
แต่คงใช้ได้เฉพาะแถวบ้านเค้าเท่านั้น

Snap Preview Anywhere

เข้าบรรดา บล็อกคนรู้จักทั้งหลาย สังเกตว่าของบางคนมีลูกเล่นอันนึงที่ชอบ คือ
เวลาเอาเม้าส์ไปชี้ที่ลิงก์ แล้วมันจะมีคล้ายๆ บอลลูนป๊อปอัพลอยขึ้นมา พร้อมกับมีหน้าตาของเวบที่ลิงก์ไปเล็กๆ ให้ดูด้วย
เลยอยากเอามาทำในนี้บ้าง ตามดูจนรู้ว่าเป็นบริการฟรีของ snap.com

Snap Preview Anywhere

เข้าไปคลิกๆ กรอกๆ สองสามที ก็จะได้สคริปต์มาชุดนึง สำหรับไปเรียกใช้ JavaScript ของ snap
ตัวอย่างก็จะหน้าตาประมาณนี้

<script defer="defer" id="snap_preview_anywhere" type="text/javascript" src="https://spa.snap.com/snap_preview_anywhere.js?ap=.....xxx blah blah blah xxx... ></script>

แล้วก็เอามาแปะใน tag <head> ของเรา
กรณีของผมใช้ drupal ก็แปะที่ไฟล์ xtemplate.xtmpl ของ theme ที่ใช้
แค่นี้ก็เรียบร้อย เวบเราก็จะดูดีฮิโซขึ้นมาทันที ^_^

ปล.รู้สึกว่ามันยังมีปัญหากับการ preview หน้าเวบที่ใช้ฟอนท์ภาษาไทยอยู่

Microsoft: ready for a new day (Japan Version)

มาถึงโต๊ะแล้ว สดๆ ร้อนๆ ห่างจากใบก่อนไม่ถึงอาทิตย์
พยายามจะพิมพ์ชื่อเรื่องให้ตรงกับการ์ด แต่จนปัญญากับภาษาญี่ปุ่นจริงๆ

ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีหิมะขาวคลุมยอดแบบนี้มันก็สวยไปอีกแบบแฮะ

Postcard from Tokyo
Postcard from Tokyo

คราวนี้รู้สึกคุณแอนดรูแกจะดื่มเรียบร้อยขึ้น เพราะไม่มีคราบชาเขียวเปื้อนมาซักหยดเลย
เดาว่าถ้ามีมาอีกใบนึง คงต้องเป็นรูปโอเปร่าเฮ้าส์จากซิดนี่ย์แหงๆ
แต่ไม่รู้จะกินน้ำอะไร ถ้ามีเวอร์ชั่นกรุงเทพ คงมีไหมไทยละมั้ง…

แก้ไขหน่อย: คุณแอนดรูยังทำน้ำชาหกเลอะอยู่ดี แต่มันเปื้อนตรงฝั่งขวาด้านที่เป็นชื่อที่อยู่ผู้รับ เลยไม่ได้สแกนติดมาด้วยครับ