Bangkok – Sukhothai Day 4

วันสุดท้ายของการเที่ยว วันนี้ไม่มีการปั่นทางไกลอีกแล้ว กะจะนอนตื่นสายหน่อย หาของกิน แล้วกลับกรุงเทพ
แต่ดันตื่นเช้า ยังไม่มีใครตื่น เลยล้างหน้าเอาจักรยานออกปั่นไปหากาแฟ ปาท่องโก๋กินในตลาด
แต่ผิดหวัง ไม่มีให้กินเหมือนในตัวเมือง เลยปั่นเข้าไปในเมืองเก่าที่ลานพ่อขุนรามซะหน่อย อากาศก็ดีด้วย
วันที่ 17 มกราคมเป็นวันบวงสรวงประจำปี มีกิจกรรม เมื่อวานก็เห็นเตรียมงานกันอยู่

แถมเมื่อคืนตอนนั่งสังสรรค์อยู่หน้าบ้าน ดึกแล้วยังมีรถกระจายเสียงวนอยู่ในชุมชน ชวนให้คนออกไปประท้วง!
ได้ความว่าปกติงานบวงสรวงพ่อขุนฯ จะจัดที่เมืองเก่าทุกปี แต่ปีนี้จะเป็นปีสุดท้าย
ปีต่อไปจะย้ายไปจัดในตัวจังหวัด ที่สวนหลวงเฉลิมพระเกียรติ ร.9
ดูแล้วงานนี้น่าจะเป็นการงัดข้อกันระหว่างนักการเมืองท้องถิ่นที่อยู่คนละขั้ว
ก็ไปวนๆ ดูบรรยากาศนิดหน่อย
ไม่มีอะไรมาก นักเรียนก็แต่งตัวมารำ เพลงเดิม ท่าเดิม ชุดเดิม เห็นตั้งแต่เด็ก
ชาวบ้านที่มาประท้วงก็ยืนถือป้ายผ้าอยู่บนลานอนุสาวรีย์ วนดูนิดหน่อยก็ปั่นกลับที่พัก

สายๆ เพื่อนก็ขับรถมารับเข้าเมือง ขนจักรยานขึ้นกระบะ แวะทักทายบ้านเพื่อนสนิทสองสามคน
เมื่อวานก็แวะเข้าไปดูบ้านตัวเองด้วย ให้คนเช่าอยู่ เห็นแล้วคิดถึงตอนเด็กๆ ที่โตมาแถวนั้น

พอใกล้เที่ยงก็เดินทางกลับพิษณุโลก แวะกินข้าวกลางวันที่ อ.กงไกรลาศอีกที
เป็นก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ต้มยำคล้ายกับที่เคยกินบ่อยๆ สมัยทำงาน/เรียนที่ชลบุรี
ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊ษา รู้สึกจะเป็นร้านดังของที่นี่ด้วย
ก็อร่อยใช้ได้ ใครผ่านไปแถวนั้นแนะนำให้แวะกิน ร้านติดถนนใหญ่ หาไม่ยาก

เกือบบ่ายสองก็ถึงสถานีรถไฟพิษณุโลก มีรถเที่ยวล่อง ตอนบ่ายสองครึ่ง เป็นรถไฟฟรีไปกรุงเทพ
ก็ไปรับตั๋วฟรี แล้วก็จ่ายค่าระวางจักรยาน ราคาเดิม คันละ 90 บาท

รถไฟมาสี่โมงเย็น สุดยอดรถไฟไทย แถมไปไม่ได้อีก เค้าบอกว่าตู้สัมภาระเต็ม เอาจักรยานขึ้นไม่ได้
เบิ้มชะโงกเข้าไปดูในตู้ บอกว่าพอมีที่ว่าง แต่เค้าเอากล่องวางเรียงเต็มพื้น ยังไม่ได้ซ้อนกัน
คนคุมรถไฟเลยไล่ให้ไปขบวนถัดไปด้วยหัวใจเปี่ยมการให้บริการ
โอเค ไม่ว่ากัน เค้าบอกว่าถ้าเอาจักรยานขึ้นจะเกะกะการขนของขึ้นลงของเค้า

ซื้อตั๋วใหม่ เที่ยวนี้ไม่ฟรีด้วย ชั้นสาม คนละ 177 บาท ขบวนนี้ไม่มีล่าช้า 19:20 น.แน่นอน
เพราะเป็นต้นทางพิษณุโลก ไม่เหมือนขบวนเมื่อตอนบ่ายที่รถวิ่งมาจากเชียงใหม่
ก็นั่งๆ นอนๆ รอกันอยู่แถวนั้น
พอเย็นก็เลยซื้อของกินแถวตลาดหน้าสถานีรถไฟมานั่งกินฆ่าเวลา
เจอปาท่องโก๋ขายด้วย เลยซื้อมากินให้หายเก็บกดซะ 10 ตัว

มีลุงคนนึงเห็นเราเอาจักรยานมาจอดเรียงรายอยู่ ก็เดินมาคุยด้วย
ใส่เสื้อบอกยี่ห้อว่าเป็นนักปั่นเหมือนกัน เสื้อจักรยานแบบรัดรูปมียี่ห้อรถจักรยานติดเต็มไปหมดนั่นแหละ
ลุงอายุ 67 แล้วบอกว่าปั่นมา 7 ปีตั้งแต่หลังเกษียณราชการ
ไปมาทั่ว ปั่นคนเดียวด้วย แข็งแรงมาก แต่ลุงบอกว่าอยากสนุกให้ปั่นคนเดียวไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า
ปั่นเป็นกลุ่มแบบพวกเรามันอุ่นใจสบายใจเกินไป แถมบอกว่าขึ้นรถไฟกลับทำไม ให้ปั่นกลับสิ
เราก็นึกในใจว่าลุงเกษียณแล้วนี่ จะปั่นกี่วันกี่เดือนก็ได้ (ฮา)

รถไฟออกตรงเวลาจริงด้วย ขนจักรยานขึ้นแล้วก็ไปนั่งหลับๆ ตื่นๆ กัน
ถึงกรุงเทพตอนตีสามกว่าๆ ลงที่สถานีบางเขน
น่ากลัวมาก ไม่มีใครลงเลย มีแต่เรา 4 คน กับกล่องสัมภาระบางส่วนที่ลงปลายทางที่นี่
ก็จะมีพนักงานรถไฟเข็นรถเข็นมาขนกล่องพวกนั้นไปเก็บที่สถานี

เราก็ปั่นกลับบ้านกันต่อ ปวดขา ปวดก้นมาก

ได้นอนกันราวๆ เช้ามืด สลบกันไปทั้งวัน

ทริปนี้ทำให้เรารู้ว่า
* ถุงน้ำมีประโยชน์ไม่ใช่แค่เฉพาะในป่า ทางถนนราดยางไกลๆ ก็ควรมีติดไว้
* รถฟรีไรด์แบบเราก็ไปไหนไกลๆ ได้ แต่มันเหนื่อยกว่าชาวบ้านมาก
* อย่าคาดหวังอะไรมากกับรถไฟ ระหว่างทางผมเห็นป้ายประท้วงแปะตามสถานีว่า คนรถไฟจะไม่ยอมให้รัฐอนุญาตให้เอกชนเอารถมาวิ่งด้วย เพราะจะขูดรีดประชาชน อืม…

One thought on “Bangkok – Sukhothai Day 4”

  1. ไปสุโขทัย รูปอยู่ไหน
    อีกอย่าง อย่าไปยุ่งกับรถไฟ มันร้อน มันก็เลยช้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *